ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มเยี่ยม คว้า 3 แต้มสำคัญหลังเอาชนะเชลซี 2-0

หงส์แดง กู้หน้า! ลิเวอร์พูล คว้า 3 แต้มสุดสำคัญหลังเจอกับ เชลซี

ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของเกมที่พบกับเชลซี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะไปได้ 2-0 ซึ่งถือเป็นชัยชนะที่สำคัญมากหลังจากที่พวกเขาต้องการกู้หน้าหลังจากที่ฟอร์มในช่วงแรกของฤดูกาลยังไม่ค่อยดีนัก

การจัดทีมและกลยุทธ์ของ ลิเวอร์พูลและเชลซี

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลได้จัดทีมในรูปแบบ 4-3-3 โดยให้ดีโก้ โจต้าและโมฮาเหม็ด ซาลาห์ลงเป็นตัวรุกด้านข้าง ส่วนตำแหน่งกลางสนามมีจอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และเคอร์ติส โจนส์ ในขณะที่แนวรับมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยมาติปและฟาน ไดจ์คยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์แบ็ค

ด้านเชลซีที่มาของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จัดทีมในรูปแบบ 3-4-2-1 โดยมีนิคโคลัส แจ็คสันเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยให้คอเนอร์ เกลเกอร์และมายซ์ัน เมานท์คอยช่วยปั้นเกมจากกลางสนาม ด้านหลังมีการวางมาตี้ คาเซเรส, ธิอาโก้ ซิลวา และเวสลีย์ โฟฟาน่า เป็นแนวรับ

ลิเวอร์พูล ทำผลงาน พรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูลทำผลงานพรีเมียร์ลีก

ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล มีโอกาสแต่ยังไม่คม

ในช่วงครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าและสร้างโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์มีโอกาสทองในการยิงในนาทีที่ 25 แต่ยังไม่สามารถผ่านมือนายทวารของเชลซีอย่างเกปา อาร์ริซาบาลาก้าไปได้ ในขณะที่เชลซีเองก็มีโอกาสดีจากลูกยิงของไม่น่า ซิมอนส์แต่บอลก็เหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

แม้ว่าลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายกดดันมากกว่า แต่เชลซีก็ยังคงตั้งรับได้ดี ทำให้เกมในครึ่งแรกจบลงที่สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ปลดล็อกและนำไปสู่ชัยชนะ

เริ่มครึ่งหลังมาไม่นาน ลิเวอร์พูลได้เปรียบในการทำประตูในนาทีที่ 51 จากลูกเตะมุมที่เปิดโดยติอาโก้ อัลกันตาร่า บอลขลุกขลิกอยู่หน้าประตูและเป็นเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คที่สามารถเข้ามาโหม่งบอลเข้าประตูไป ส่งให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0

หลังจากนั้น เชลซีก็พยายามเร่งเกมเพื่อหาทางตีเสมอ แต่ลิเวอร์พูลยังคงเล่นได้ดีและสามารถป้องกันเกมรุกของเชลซีได้อย่างแน่นหนา ในที่สุด ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 73 จากลูกยิงของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่ได้บอลจากการจ่ายของเคอร์ติส โจนส์และสามารถยิงผ่านเกปาเข้าไปอย่างสวยงาม

ช่วงท้ายเกม เชลซีก็พยายามบุกอย่างเต็มที่เพื่อหาประตู แต่ลิเวอร์พูลยืนหยัดในการป้องกันอย่างแข็งแกร่งและไม่ให้เชลซีได้สร้างความเสียหายมากนัก

ผลการแข่งขันและการประเมิน

ชัยชนะในเกมนี้ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มสำคัญได้อย่างยิ่งและช่วยให้พวกเขากลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง หลังจากที่ฟอร์มในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งชัยชนะนี้จะช่วยให้ลิเวอร์พูลมีความมั่นใจในการแข่งขันในนัดถัดไป

ส่วนเชลซีนั้นแม้ว่าจะมีโอกาสหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ซึ่งจะต้องกลับไปปรับปรุงเกมรุกของทีมให้ดีขึ้นต่อไป โดยรวมแล้ว เกมนี้ถือเป็นการแสดงที่แข็งแกร่งของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่พวกเขาสามารถครองเกมและทำประตูได้ตามเป้าหมาย ในขณะที่เชลซียังคงต้องแก้ไขปัญหาการทำประตูและการสร้างโอกาสในการแข่งขันในอนาคต

ผลบอล อุ่นเครื่อง LP Bank Cup 2024 เวียดนาม พบ ไทย

ผลบอล การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่อง 3 เส้า LP Bank Cup 2024: เวียดนาม พบ ไทย

การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องสามเส้า ผลบอลล่าสุด รายการ “LP Bank Cup 2024” ซึ่งเป็นแมตช์ FIFA International 'A' Match ได้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 โดยเกมนี้มีการคิดคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติเวียดนาม ทีมอันดับที่ 115 ของโลก กับ ทีมชาติไทย ทีมอันดับที่ 101 ของโลก การแข่งขันนี้จัดขึ้นที่สนามมี ดินห์ สเตเดียม กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยนอกจากจะเป็นโอกาสในการวัดฟอร์มก่อนการแข่งขันระดับทวีปแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งสองทีมสะสมคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้งอีกด้วย

ความสำคัญของผลบอลในเกมนี้

สำหรับทีมชาติเวียดนาม การแข่งขันในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสสำคัญในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่เวียดนามทำผลงานได้ดีในการแข่งขันระดับภูมิภาคในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผลบอลในเกมนี้จะช่วยยืนยันสถานะของพวกเขาในฐานะทีมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเกมรุกและเกมรับ การเจอกับทีมชาติไทยที่มีอันดับโลกดีกว่าจึงเป็นความท้าทายที่เวียดนามต้องการพิชิตเพื่อเก็บคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง

ในทางกลับกัน ทีมชาติไทยก็กำลังมองหาการเพิ่มคะแนนแรงกิ้งฟีฟ่าของตัวเองเช่นกัน ผลบอลที่ดีในเกมนี้จะเป็นการยืนยันความสามารถของทีมชาติไทย และช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันระดับเอเชียหรือการแข่งขันฟุตบอลโลก การแข่งขันกับเวียดนามซึ่งเป็นทีมที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันและมีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกัน จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการทดลองแทคติกและปรับปรุงฟอร์มของทีม

ผลบอล LP Bank Cup

การเตรียมทีมและตัวผู้เล่นที่น่าสนใจ

ในเกมนี้ ทั้งสองทีมได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เวียดนามมีนักเตะที่น่าจับตามองหลายคน เช่น เหงียน กวง ไฮ กองกลางตัวรุกที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์เกมและจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ รวมถึงดาวรุ่งที่กำลังขึ้นมาแรงอย่างฟาน วัน ดุ๊ก ที่เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติชุดนี้

ในฝั่งของทีมชาติไทย ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน โดยโค้ชทีมชาติไทยได้เรียกนักเตะดาวรุ่งหลายคนเข้ามาติดทีม ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างนักเตะที่มีประสบการณ์และดาวรุ่งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันใหญ่ในอนาคต นักเตะอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังคงเป็นแกนหลักของทีมชาติไทย ด้วยความสามารถในการควบคุมเกมและสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม ส่วนผู้เล่นอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าจับตามองในเรื่องของความสามารถในการทำประตู

ความคาดหวังและผลกระทบจากผลบอล

ทั้งสองทีมต่างมีความคาดหวังสูงกับเกมนี้ โดยเวียดนามหวังที่จะเอาชนะทีมชาติไทยเพื่อเพิ่มความมั่นใจและยืนยันสถานะการเป็นทีมชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเก็บชัยชนะในเกมนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการปรับปรุงอันดับโลกของพวกเขาในฟีฟ่า แรงกิ้ง

ในขณะที่ทีมชาติไทยก็หวังที่จะสร้างผลงานที่ดีในสนามเพื่อยกระดับทีมและเพิ่มแรงกิ้งของตัวเอง ผลบอล ที่ดีในเกมนี้จะเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการเข้าร่วมการแข่งขันที่มีมาตรฐานสูงในระดับนานาชาติในอนาคต

การวิเคราะห์เกมและแทคติกที่น่าจะใช้

จากการวิเคราะห์สไตล์การเล่นของทั้งสองทีม คาดว่าเวียดนามจะเน้นการเล่นที่รวดเร็วและมีความคล่องตัวสูง พวกเขาจะพยายามควบคุมเกมในแดนกลางและใช้จังหวะในการสวนกลับที่รวดเร็ว ส่วนทีมชาติไทยน่าจะเน้นการครองบอลและพยายามหาช่องเจาะเข้าไปในแดนของเวียดนาม โดยเฉพาะการเล่นบอลสั้นและการส่งบอลที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทยในการสร้างโอกาสในการทำประตู

ติดตาม ผลบอล Livesodball ในเกมนี้จะเป็นการวัดฟอร์มที่สำคัญสำหรับทั้งสองทีม ไม่เพียงแต่ในเรื่องของผลการแข่งขัน แต่ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมในด้านแทคติกและสภาพจิตใจ การแข่งขันระหว่างเวียดนามและไทยนั้นเสมือนเป็นการดวลกันของสองทีมที่กำลังมุ่งมั่นสู่การเป็นทีมชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองทีมต่างก็มีแรงกดดันในการสร้างผลงานที่ดีในแมตช์นี้ การเก็บชัยชนะหรือผลการแข่งขันที่ดีจะช่วยเพิ่มคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง และเสริมสร้างความมั่นใจในการแข่งขันระดับนานาชาติในอนาคต

แมนฯ ซิตี้ เตรียมทุ่มงบเสริมทัพมูลค่ากว่า 350 ล้านปอนด์

สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังวางแผนการเสริมทัพครั้งใหญ่สำหรับตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์หน้า โดยมีกระแสข่าวว่าแมนฯ ซิตี้เตรียมงบประมาณมหาศาลกว่า 350 ล้านปอนด์ เพื่อคว้านักเตะระดับโลกเข้ามาเสริมทัพ เพื่อรักษาสถานะการเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของยุโรปและเพื่อไล่ล่าความสำเร็จในทุกๆ รายการ หลังจากที่ “เรือใบสีฟ้า” ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และเอฟเอ คัพ ได้อย่างงดงาม ทำให้เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งมากขึ้นอีกในอนาคต เพื่อรักษามาตรฐานและเพิ่มโอกาสในการครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลต่อไปสำหรับแผนการเสริมทัพครั้งนี้ คาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มศักยภาพในหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งกองกลางและกองหลัง เนื่องจากนักเตะสำคัญอย่าง อิลคาย กุนโดกัน ได้ย้ายออกจากทีมไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และถึงแม้ซิตี้จะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่กวาร์ดิโอล่ายังเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องหานักเตะเข้ามาแทนที่ รวมถึงเสริมตัวเลือกในแนวรับเพื่อรองรับการเล่นในหลากหลายรายการ

 

รายชื่อนักเตะที่ทางแมนฯ ซิตี้ กำลังให้ความสนใจ

ในส่วนของรายชื่อนักเตะที่แมนฯ ซิตี้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ มีข่าวลือว่านักเตะอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม และ จอสโก้ กวาร์ดิโอล นักเตะดาวรุ่งจากยุโรป เป็นเป้าหมายหลักของพวกเขา โดยทั้งสองคนเป็นที่ต้องการของหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ ทำให้แมนฯ ซิตี้ ต้องเตรียมงบประมาณจำนวนมากเพื่อแข่งขันในตลาดซื้อขายกับทีมอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ซิตี้อาจจะเสริมทัพด้วยนักเตะที่มีประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูงเพื่อสร้างความสมดุลให้กับทีม การเตรียมทุ่มงบประมาณ 350 ล้านปอนด์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและวิสัยทัศน์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่เพียงต้องการประสบความสำเร็จในลีกภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีความทะเยอทะยานที่จะก้าวสู่การเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล และเป็นตัวแทนของฟุตบอลยุโรปในเวทีระดับโลกอย่างยาวนาน ทั้งนี้ การซื้อขายนักเตะและการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์หน้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นที่จับตามองอย่างมาก ไม่เพียงแต่จากแฟนบอลและสื่อต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทีมคู่แข่งทั้งในอังกฤษและยุโรป ที่จะต้องจับตาดูว่ากวาร์ดิโอล่าและทีมของเขาจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้มากแค่ไหนในการเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลถัดไป

แมนฯ ซิตี้ ทุ่่มงบ

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล จับตาสตาร์ คริสตัล พาเลซ เสริมทัพแดนกลาง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล สองทีมยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก กำลังจับตามองสถานการณ์ของ เอเบเรชี่ เอเซ่ กองกลางตัวรุกจากสโมสรคริสตัล พาเลซ โดยมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองทีมจะเปิดศึกนอกสนามเพื่อแย่งชิงลายเซ็นของดาวเตะวัย 25 ปีรายนี้ในตลาดซื้อขายนักเตะที่กำลังจะมาถึง เอเซ่ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับคริสตัล พาเลซตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยความสามารถในการเล่นที่สร้างสรรค์เกม การเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่ว และการยิงประตูที่เฉียบคม ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองที่สุดในพรีเมียร์ลีก ณ เวลานี้ นอกจากนี้ สไตล์การเล่นของเขายังสามารถปรับตัวเข้ากับแผนการของทั้งสองทีมยักษ์ใหญ่อย่างแมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ได้อย่างลงตัว สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือ กำลังมองหานักเตะที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นแดนกลางเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม โดยเฉพาะหลังจากการย้ายออกของ อิลคาย กุนโดกัน และการขาดหายไปของ เควิน เดอ บรอยน์ จากอาการบาดเจ็บ การดึงตัว เอเซ่ เข้ามาจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการทำเกมรุกและช่วยกระจายความรับผิดชอบในแดนกลางให้กับทีม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็กำลังต้องการเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลางเช่นกัน หลังจากที่ทีมมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา การเข้ามาของ เอเซ่ จะช่วยเพิ่มความหลากหลายและมิติในการเล่นแดนกลางให้กับทีม “หงส์แดง” ที่มักจะเล่นในระบบการโจมตีที่เน้นความเร็วและการสวนกลับ อย่างไรก็ตาม คริสตัล พาเลซ ก็ไม่ต้องการจะเสียหนึ่งในนักเตะสำคัญของพวกเขาไปง่ายๆ โดยคาดว่าสโมสรอาจตั้งค่าตัวของ เอเซ่ ไว้สูงลิ่ว เพื่อกันท่าทีมใหญ่ๆ ที่ต้องการดึงตัวเขาไปร่วมทัพ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของเขา คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ซิตี้และลิเวอร์พูลจะพร้อมยื่นข้อเสนอที่มีมูลค่าสูงเพื่อคว้าตัวไปร่วมทีม ทั้งนี้ แฟนบอลต้องรอจับตาดูว่าดาวเตะพาเลซรายนี้จะเลือกเส้นทางใดในการค้าแข้ง และสโมสรไหนจะสามารถคว้าตัวเขาไปเสริมทัพในตลาดซื้อขายนักเตะครั้งถัดไป

ตำนานแมนยูฯ เผยเหตุผลว่า ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ด ควรมี เทน ฮาก ต่อไป

นิคกี้ บัตต์ อดีตนักเตะคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกมาแสดงความเห็นสนับสนุน เอริค เทน ฮาก ว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมในการคุมทีมปีศาจแดงในช่วงเวลาที่มีความท้าทายอย่างสูง หลังจากที่เทน ฮาก เข้ามารับตำแหน่งในช่วงต้นฤดูกาล 2022/23 บัตต์มองว่าแม้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่กุนซือชาวดัตช์ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นในการนำทีมกลับสู่ความยิ่งใหญ่บัตต์ ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีม "คลาส ออฟ 92" ร่วมกับตำนานนักเตะอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, และแกรี่ เนวิลล์ ได้ออกมากล่าวถึงความเชื่อมั่นในตัวเทน ฮาก ว่า "ผมคิดว่าเอริค เทน ฮาก คือคนที่ใช่สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเวลานี้ เขาเข้ามาพร้อมกับวิสัยทัศน์และแนวทางการเล่นที่ชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมต้องการ"

 

การฟื้นฟูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องใช้เวลา

บัตต์ยังชี้ว่า การฟื้นฟูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่เรื่องที่จะทำสำเร็จได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะหลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมหลายคนหลังจากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือในปี 2013 ทีมต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายครั้ง ซึ่งบัตต์เชื่อว่าเทน ฮากมีศักยภาพในการทำงานระยะยาวเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง “เราเห็นได้จากวิธีการทำทีมที่มีระบบระเบียบ การพัฒนานักเตะที่มีความมุ่งมั่น เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการสถานการณ์ยากลำบากและยังมีทิศทางที่ชัดเจนในการพัฒนาเยาวชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูไนเต็ดมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน" บัตต์กล่าว อย่างไรก็ตาม บัตต์ยังเน้นว่า เทน ฮาก ควรได้รับการสนับสนุนจากสโมสรและแฟนบอล เพื่อให้เขามีเวลาและพื้นที่ในการทำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด "มันสำคัญมากที่ทุกคนในสโมสร ทั้งผู้เล่น แฟนบอล และบอร์ดบริหาร ต้องมีความอดทนและเชื่อมั่นในตัวเทน ฮาก ผมมั่นใจว่าเขาจะนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งได้ในที่สุด" ในช่วงเวลานี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังอยู่ในกระบวนการสร้างทีมใหม่ และเอริค เทน ฮากก็เป็นหัวเรือใหญ่ในการนำทีมก้าวไปข้างหน้า บัตต์เชื่อมั่นว่า หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ทีมจะสามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง และเทน ฮากคือคนที่จะนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จนั้น
แมนฯ ยูไนเต็ด เทน ฮาก

 

ศึกครั้งต่อไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้พบกับ เซาแธมป์ตัน

การแข่งขันครั้งต่อไปของปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นการออกไปเยือน "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน หลังจากช่วงเบรคทีมชาติ ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญของทีมภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก การออกไปเยือนทีมที่มีเกมรับที่แข็งแกร่งอย่างเซาแธมป์ตันไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ยูไนเต็ดกำลังพยายามหาฟอร์มที่คงเส้นคงวาและผลักดันทีมให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นบนตารางคะแนนหลังเบรคทีมชาติ มักเป็นช่วงเวลาที่ทีมต้องปรับจูนฟอร์มกันใหม่ เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่อาจจะมีความเหนื่อยล้าจากการลงสนามให้กับทีมชาติ ทำให้ความพร้อมของนักเตะอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการลงสนามในนัดนี้ โดยเฉพาะการบริหารจัดการตัวผู้เล่นของเทน ฮาก ที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างการพักฟื้นและการเตรียมทีมเพื่อรับศึกหนักในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล การพบกับเซาแธมป์ตันในถิ่นเซนต์ แมรีส์ สเตเดียม ถือเป็นเกมที่ยาก แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีมากนัก แต่พวกเขามักสร้างปัญหาให้กับทีมใหญ่เสมอเมื่อได้เล่นในบ้าน อีกทั้งสไตล์การเล่นของเซาแธมป์ตันที่มีการเพรสซิ่งอย่างหนักหน่วงก็อาจสร้างความลำบากให้กับแนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ของปีศาจแดงย่อมคาดหวังว่าจะได้เห็นทีมออกมาโชว์ฟอร์มที่ดีขึ้นและกลับมาเก็บสามแต้มได้หลังจากการพักเบรค ทีมต้องแสดงความมุ่งมั่นและมีการเล่นที่เหนียวแน่นในทุกพื้นที่ของสนาม หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการผลักดันตัวเองไปสู่การแข่งขันในตำแหน่งที่สูงขึ้นในลีก

ผลบอล เนชั่นส์ ลีก สเปน  ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์

เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2024-25

เนชั่นส์ ลีก คือ การแข่งขันฟุตบอลระดับชาติของยุโรปที่จัดขึ้นโดยยูฟ่า ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติให้มีมาตรฐานสูงขึ้น โดยจัดแบ่งทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันออกเป็นระดับชั้น (ลีก) ตามศักยภาพ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น

การแข่งขันเนชั่นส์ ลีกจะมีการแบ่งออกเป็น 4 ระดับชั้น (ลีก) ได้แก่ ลีกเอ ลีกบี ลีกซี และลีกดี โดยทีมที่อยู่ในระดับสูงกว่าจะได้เล่นกับทีมที่อยู่ในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่า ส่วนทีมที่อยู่ในระดับต่ำกว่าจะได้เลื่อนชั้นขึ้นหรือตกชั้นลง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่ท้าทายและสมดุลมากขึ้น

นอกจากนี้ การแข่งขัน เนชั่นส์ ลีก ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ทีมชาติที่อยู่ในระดับรองลงมาได้มีโอกาสในการคว้าแชมป์ยูโร และได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติมากขึ้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาฟุตบอลของประเทศเหล่านั้นให้แข็งแกร่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มโอกาสให้ผู้เล่นได้แสดงความสามารถในเวทีระดับนานาชาติ

สเปน  ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์

ฟุตบอล เนชั่นส์ ลีก ลีก ฤดูกาล 2024-25 เกมลีกทีมชาติโซนยุโรป ที่มี 4 ลีก ลีกเอ ถึง ลีกดี ที่นำเอาทีมที่ดีที่สุดของแต่ละลีก 4 ลีก มาพบกันในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ เกมนัดที่ 2 แชมป์เก่า สเปน ที่อยู่ในลีก เอ แม้จะเหลือ 10 คน ตั้งแต่ 20 นาทีแรก แต่ก็โชว์ฟอร์มเยี่ยมบุกไปถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 4-1 โดย ฟาเบียน รุยซ์ มีชื่อทำ 2 ประตู ด้าน โปรตุเกส แชมป์ปี 2019 เฉือนชนะ สกอตแลนด์ 2-1 โดยได้ประตูชัยจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในนาที 88 เกมนี้ซีอาร์ 7 ลงเป็นสำรองช่วงครึ่งหลัง และถือเป็นประตูที่ 901 ในอาชีพ สเปน แชมป์เก่า แม้จะเหลือ 10 คนตั้งแต่กลางครึ่งแรก แต่ก็บุกไปถล่มสวิตเซอร์แลนด์ ด้าน โรนัลโด้ ที่เป็นสำรองมายิงประตูชัยให้ โปรตุเกส ชนะ สกอตแลนด์ ในศึกฟุตบอล เนชั่นส์ ลีก พร้อมสรุปผลคู่อื่นๆ

ผลปรากฏว่า ทีมชาติสเปน บุกมาถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ ไปอย่างขาดลอย 4-1 โดย สเปน ได้ประตูจาก โฆเซลู นาทีที่ 5, ฟาเบียน รุยซ์ 2 ลูก นาทีที่ 13 กับ 75 และ เฟอร์รัน ตอร์เรส ปิดกล่อง นาทีที่ 80 ส่วน สวิตเซอร์แลนด์ ได้จาก เซกี อัมดูนี นาทีที่ 40 ซึ่งเกมนี้ โรบิน เลอ นอร์มานด์ กองหลังของสเปน โดนใบแดงไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 20 ด้วย หลังไปตัดฟาวล์ใส่ บรีล เอ็มโบโล จากด้านหลัง ในจังหวะที่กำลังจะหลุดไปยิง ทั้งนี้ จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ สเปน คว้าชัยแรกในศึก ยูฟ่า เนชันส์ ลีก ฤดูกาลนี้ มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน จาก 2 นัด อยู่อันดับ 2 ของกลุ่ม ตามหลัง เดนมาร์ก 2 คะแนน

สเปน  ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์

ทีมชาติสเปน

ทีมชาติสเปน เป็นหนึ่งในทีมชาติที่มีประสบการณ์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในวงการฟุตบอลโลก ด้วยการคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในปี 2010 และยังเป็นแชมป์ยูโร 2008 และ 2012 อีกด้วย ภายใต้การนำของผู้จัดการทีมและนักเตะที่มีฝีมือระดับโลก ทีมชาติสเปนได้สร้างชื่อเสียงด้วยการเล่นบอลที่มีเอกลักษณ์ด้วยการครองบอลอย่างต่อเนื่อง และการเปิดเกมรุกอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ทีมนี้สามารถครองความเป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลโลกมาอย่างยาวนาน

ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์

ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและแข็งแกร่งในเวทีฟุตบอลนานาชาติ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและความสำเร็จในการคว้าแชมป์ระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์มีรากฐานของการพัฒนานักฟุตบอลอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงระดับทีมชาติ ส่งผลให้พวกเขาสามารถผลิตนักฟุตบอลที่มีคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในช่วงของการสร้างทีมใหม่ โดยมีการผสมผสานระหว่างนักฟุตบอลรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ และนักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์และศักยภาพสูง ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่ทำให้พวกเขาสามารถคงความแข็งแกร่งและสร้างความท้าทายให้กับคู่แข่งชั้นนำของโลกได้อย่างต่อเนื่อง

โค้ชเยาวชน ลิเวอร์พูล ชม เฟเดริโก้ เคียซ่า ชื่นชมสุดยอดมืออาชีพ

เฟเดริโก้ เคียซ่า คือใคร

เคียซ่า เป็นชื่อเรียกที่คุ้นหูในวงการฟุตบอลไทย เขาเป็นโค้ชฝึกสอนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในการพัฒนานักฟุตบอลชั้นนำของประเทศ โค้ช เคียซ่า เริ่มต้นเส้นทางการเป็นโค้ชฝึกสอนตั้งแต่ปี 2000 เมื่อเขาได้รับโอกาสเข้ามาคุมทีมชาติไทยชุดเยาวชน ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์เกม การจัดทัพ และการพัฒนานักฟุตบอลรุ่นใหม่ ทำให้เขาสามารถพาทีมชาติไทยชุดเยาวชนประสบความสำเร็จในหลายรายการ ต่อมา โค้ช เคียซ่า ได้รับโอกาสเข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ในปี 2012 ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของเขา เขาสามารถยกระดับทีมชาติไทยให้มีผลงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างผู้เล่นดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติ

นอกจากผลงานกับทีมชาติแล้ว เคียซ่า ยังประสบความสำเร็จในการพัฒนานักฟุตบอลในระดับสโมสรด้วย เขาเคยคุมทีมอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งสามารถพาทีมประสบความสำเร็จในระดับลีกและถ้วยรายการต่างๆ ด้วยความสามารถในการวางแผนกลยุทธ์ การพัฒนานักฟุตบอล กีฬาฟุตบอล และการจัดการทีมที่โดดเด่น ทำให้ โค้ช เคียซ่า เป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องในวงการฟุตบอลไทยว่าเป็นหนึ่งในโค้ชที่มีความสำคัญต่อการยกระดับฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในเกมการแข่งขัน

เฟเดริโก้ เคียซ่า

ชื่นชม เคียซ่า สุดยอดมืออาชีพ

ลิเวอร์พูล ยกนิ้วชม เฟเดริโก้ เคียซ่า ว่าเป็นมืออาชีพสุดๆ พร้อมบอกว่าการที่ เคียซ่า มาซ้อมกับทีมเยาวชนมันส่งผลดีต่อแข้งดาวรุ่ง แบร์รี่ ลิวตัส โค้ชทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีของ ลิเวอร์พูล ยกนิ้วชม เคียซ่า ว่าเป็นมืออาชีพสุดๆ พร้อมบอกว่าการที่ เคียซ่า มาซ้อมกับทีมเยาวชนมันส่งผลดีต่อแข้ง แบร์รี่ ลิวตัส โค้ชทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีของ ลิเวอร์พูล กล่าวชม เคียซ่า ปีกคนใหม่ในทีมชุดใหญ่ของ หงส์แดง ว่ามีความเป็นมืออาชีพสูงหลังซ้อมร่วมกับเหล่าเยาวชนแบบเอาจริงเอาจังสุดๆ ด้วยความที่ตอนนี้มันอยู่ในช่วงโปรแกรมเกมทีมชาติ และ เคียซ่า ไม่ได้ถูกเรียกติดทีมชาติอิตาลี ทำให้เจ้าตัวอยู่ซ้อมที่ย่านเมอร์ซี่ย์ไซด์เพื่อเรียกสภาพความฟิตของตัวเอง ซึ่งมันก็ส่งผลให้เขาได้ซ้อมกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีด้วย ลิวตัส ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ลิเวอร์พูล

ถ้ามองจากเส้นทางการค้าแข้งดาวรุ่งของเขาจนถึงตอนนี้เข้าถึงคุณก็จะเห็นได้ชัดว่าเขามีคุณภาพมากแค่ไหน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาได้มาอยู่กับหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดของโลกในตอนนี้ ความเป็นมืออาชีพของเขาและคุณภาพของเขามันถือว่าสูงมากๆ มันทำให้เด็กๆ ของเรามีโอกาสนิดหน่อยที่จะได้ดวลกับนักเตะที่มีคุณภาพแบบเขา ซึ่งนั่นถือเป็นโอกาสการเรียนรู้ที่ดีสำหรับพวกเขา ผมคิดว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีโอกาสได้มาซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่น่ะมันก็เป็นเรื่องดีอยู่เสมอ ซึ่งเราก็มีโอกาสได้มาซ้อมกับทีมชุดใหญ่หลายครั้งด้วย มันเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ดี แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการที่เราได้ทำงานร่วมกับนักเตะในทีมชุดใหญ่และสตาฟฟ์ของทีมชุดใหญ่ในเกมฟุตบอล การแข่งขันบอล นั่นถือเป็นสิ่งที่สำคัญกับเหล่าดาวรุ่งอย่างมาก แน่นอนว่าเราได้ซ้อมร่วมกับ เคียซ่า ไปหลายครั้งแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้เรียกสภาพความฟิตและมีความพร้อมสำหรับการเล่นฤดูกาลนี้เช่นกัน

มาร์ก กูกูเรย่า แค่ร้องเพลงไม่ได้ล้อ เออร์ลิง ฮาลันด์ เป็นการทำแบบขำ ๆ 

         ข่าวฟุตบอล วันนี้หลังจากสร้างความฮือฮาด้วยการล้อเลียนท่าดีใจแบบ “นั่งสมาธิ” ของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ไปเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ล่าสุด มาร์ก กูกูเรย่า แบ็กซ้ายจอมบู๊ของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาสร้างความสนุกสนานอีกครั้งด้วยการร้องเพลงล้อเลียน กองหน้าชาวนอร์เวย์ รายนี้ คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านทาง TikTok โดยเป็นคลิปของ กูกูเรย่า ขณะร้องเพลงที่มีเนื้อหาล้อเลียนท่าดีใจของ ฮาลันด์ ที่มักจะวิ่งไปยืนนิ่งเหมือนนั่งสมาธิหลังจากทำประตูได้ เนื้อเพลงมีใจความว่า “เออร์ลิง ทำแบบนี้ เออร์ลิง ทำแบบนั้น” พร้อมกับทำท่าเลียนแบบท่าดีใจ 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้ง กูกูเรย่า และ ฮาลันด์ คงไม่ได้มีเจตนาที่จะล้อเลียน หรือ หมิ่นเหม่แต่อย่างใด เพราะทั้งคู่มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี โดยคลิปดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีคลิปอื่นๆ อีกมากมายของนักฟุตบอลที่ร้องเพลงล้อเลียนกันเองเพื่อความสนุกสนาน เช่น

ข่าวฟุตบอล คลิปเหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า แม้จะเป็นนักฟุตบอลระดับโลก แต่พวกเขาก็ยังมีมุมสนุกสนาน และ เป็นกันเอง อย่างไรก็ตาม การล้อเลียนกัน ควรทำด้วยความเคารพ และ ไม่ควรล้ำเส้นจนเกินไป

มาร์ก กูกูเรญ่า แซว เออร์ลิง ฮาลันด์ ด้วยการร้องเพลงล้อ

หลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกชนะ เชลซี 2-0 มาร์ก กูกูเรญ่า แบ็กซ้ายคนเก่งของ เชลซี ขอแซว เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าตัวความหวังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการร้องเพลงล้อ หลังเกมที่ เชลซี พ่ายแพ้ให้กับ เรือใบสีฟ้า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจบเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่ง ซิตี้ บุกมาคว้าชัยไปได้ 2-0 ส่งผลให้ เชลซี รั้งอันดับ 10 ของตาราง มีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล 13 แต้ม

กูกูเรญ่า ได้โพสต์วิดีโอลงอินสตาแกรมส่วนตัว ขณะที่เขากำลังร้องเพลง "ฮาลันด์ อย่าทำร้ายฉันอีกเลย" ซึ่งเป็นเพลงล้อเลียนเพลงฮิตติดหูอย่าง "เบเบ้ อย่าทำร้ายฉันอีกเลย" โดยมีเพื่อนร่วมทีมอย่าง มาเตโอ โควาซิช ร่วมร้องด้วย โพสต์ดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนบอล โดยมียอดคนดูทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเวลาเพียงไม่นาน นอกจากนี้ ยังมีนักเตะและบุคคลในวงการฟุตบอลมากมายเข้ามาคอมเมนท์แซว 

แม้จะพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลได้ไม่น้อย ทั้งนี้ ฮาลันด์ เพิ่งย้ายมาสวมเสื้อสีฟ้าในฤดูกาลนี้ และกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิงไปแล้ว 17 ประตูจาก 11 นัดในพรีเมียร์ลีก

เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวเตะพุ่งแรง ยอดดาวยิงแห่งยุค

เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิงชาวนอร์เวย์ ผู้ถูกขนานนามว่าเป็น "ดาวเตะพุ่งแรง" และ "ยอดดาวยิงแห่งยุค"กำลังสร้างชื่อเสียงในโลกฟุตบอลด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม  บทความนี้จะเจาะลึกถึงเรื่องราวของ ฮาลันด์ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอล ผลงานที่โดดเด่น สไตล์การเล่น และอนาคตอันสดใส ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ Manchester City 

ผลงานที่โดดเด่นของ เออร์ลิง ฮาลันด์

เออร์ลิง ฮาลันด์ คือ ดาวเตะพรสวรรค์สูง ที่มีอนาคตอันสดใสรออยู่ข้างหน้า ด้วยทักษะฝีเท้าและความมุ่งมั่น ตั้งใจ เชื่อว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นสุดยอดนักฟุตบอลระดับโลกได้ในอนาคต

มาร์ก กูกูเรย่า แบ็คซ้ายดาวรุ่ง ผู้สร้างความฮือฮาในพรีเมียร์ลีก

มาร์ก กูกูเรย่า เป็นนัก ฟุตบอล ชาวสเปนเชื้อสายอาร์เจนตินา ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายให้กับทีมเชลซีในพรีเมียร์ลีก ฝีเท้าระดับพรีเมียร์ลีก กูกูเรย่า เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลในสเปนกับทีมบาร์เซโลน่า บี เขาโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งในลีกสูงสุดของอาร์เจนตินากับทีมทายาเรส เขายกระดับฝีเท้าขึ้นไปอีกขั้น และในที่สุดก็ได้โอกาสย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกกับทีมไบรท์ตัน ในปี 2020 ที่ไบรท์ตัน กูกูเรย่ากลายเป็นตัวหลักในทันที เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ ด้วยความที่มีเทคนิคดี เลี้ยงบอลเก่ง วิ่งไม่มีหมด และครอสบอลแม่นยำ ข่าวฟุตบอล ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีก 

เอ็มบัปเป้ ลั่นไม่สนใจคำวิจารณ์ของนักวิเคราะห์ บอล แม้แต่นิดเดียว

เอ็มบัปเป้ ไม่แคร์สายตาคนวิจารณ์ ย้ำโฟกัสเต็มที่กับ เรอัล มาดริด

กองหน้าตัวเก่งของ เรอัล มาดริด ยืนกรานว่าเขาไม่สนใจเสียงวิจารณ์ใดๆ และมุ่งมั่นทุ่มเทเต็มที่กับสโมสร ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสวัย 24 ปี โชว์ฟอร์มน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ โดยยิงไปแล้ว 15 ประตูจาก 22 นัดในทุกรายการ แม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่น บอล ของเขาในบางช่วง อย่างไรก็ตาม เอ็มบัปเป้ ไม่ได้ใส่ใจกับคำวิจารณ์เหล่านั้น และกล่าวว่า 

“ผมไม่สนใจว่าคนอื่นจะพูดอะไร ผมโฟกัสกับสิ่งที่ผมทำ สิ่งที่ผมทำเพื่อทีม และสิ่งที่ผมทำเพื่อตัวเอง”

“ผมมีความสุขกับการเล่นฟุตบอล และผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ ผมทุ่มเททุกอย่างเพื่อสโมสรแห่งนี้”

เอ็มบัปเป้ ยังกล่าวเสริมว่า เขาไม่เคยรู้สึกกดดันจากการเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก และยืนยันว่าเขาพร้อมรับมือกับความคาดหวังต่างๆ

“ผมไม่เคยรู้สึกกดดันเลย ผมรู้ว่าผมมีศักยภาพ และผมรู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง”

“ผมแค่ต้องทำงานหนักต่อไป และพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น”

ตั้งแต่ย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ - แชร์กแมง ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 เอ็มบัปเป้ กลายเป็นกำลังสำคัญของ เรอัล มาดริด ทันทีเขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลาลีกา และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลที่ผ่านมาเอ็มบัปเป้ ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติฝรั่งเศส ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 และรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม เอ็มบัปเป้ ได้รับการคาดหมายว่าจะกลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในอนาคต

เอ็มบัปเป้  เรอัล มาดริด เอ็มบัปเป้ กองหน้าตัวเก่ง

 ยืนยันว่าเขาไม่สนใจเสียงวิจารณ์ หลังจากฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอในช่วงที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำว่า  เขายังคงทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับสโมสร ดาวเตะวัย 24 ปี ย้ายจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความคาดหวังอย่างมาก แต่ฟอร์มการเล่นของเขาในช่วงแรก ยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง   อย่างไรก็ตาม เอ็มบัปเป้ ยังคงมั่นใจในตัวเอง และยืนยันว่า เขาจะไม่ยอมแพ้  

 "ผมรู้ว่า  ทุกคนคาดหวังอะไรจากผม แต่ผมไม่สนใจเสียงวิจารณ์ ผมรู้ว่า ผมมีศักยภาพ และผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น"  เอ็มบัปเป้  

"ผมโฟกัสเต็มที่กับ เรอัล มาดริด ผมอยากประสบความสำเร็จกับสโมสรแห่งนี้ ผมเชื่อว่า เราจะทำได้   เรามีทีมที่แข็งแกร่ง และเรามีโค้ชที่ยอดเยี่ยม"

ในช่วงที่ผ่านมา เอ็มบัปเป้ ทำไปแล้ว  14  ประตูจากการลงเล่น  23  นัดในทุกรายการโดยแบ่งเป็น  9  ประตู ในลีก และ  5 ประตูใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกแม้ว่าฟอร์มการเล่นของ เอ็มบัปเป้ จะยังไม่สม่ำเสมอ แต่ คาริม เบนเซม่า กองหน้ารุ่นพี่เชื่อว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญของ เรอัล มาดริด ในอนาคต

เอ็มบัปเป้ เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม เขายังอายุน้อย

เขามีอนาคตที่สดใส ผมเชื่อว่า เขาจะประสบความสำเร็จมากมายกับ เรอัล มาดริด" เบนเซม่า กล่าว เอ็มบัปเป้ และ เรอัล มาดริด  จะลงสนามพบกับ ลิเวอร์พูล ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ในวันที่  21กุมภาพันธ์   ที่สนาม  แอนฟิลด์

บทความนี้  บอล เขียนขึ้นเพื่อนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับ เอ็มบัปเป้ กองหน้าตัวเก่งของ เรอัล มาดริด ที่กำลังถูกวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่น แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่า เขาไม่สนใจเสียงวิจารณ์ และจะโฟกัสเต็มที่กับ เรอัล มาดริด ต่อไป

เมสซี่ โรนัลโด้ ไม่ติดโผ ผู้เข้าชิง บัลลง ดอร์ 2024

ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สองนักเตะที่ถือเป็นตำนานแห่งวงการฟุตบอลในยุคปัจจุบัน ไม่มีชื่ออยู่ใน 30 ผู้เข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ประจำปี 2024 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พวกเขาหลุดจากรายชื่อนักเตะที่มีโอกาสคว้ารางวัลนี้ หลังจากที่ทั้งคู่ต่างเคยครองความยิ่งใหญ่และคว้ารางวัลมาอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมสซี่ที่เป็นเจ้าของบัลลงดอร์ 7 สมัย และโรนัลโด้ที่คว้ารางวัลนี้ได้ถึง 5 สมัย

รวมผู้เข้าชิง บัลลง ดอร์ 2024 ดาวรุ่งและนักเตะฟอร์มโดดเด่น

ในขณะที่ เมสซี่ และ โรนัลโด้ ไม่ติดโผ รายชื่อผู้เข้าชิงบัลลงดอร์ในปีนี้กลับเต็มไปด้วยดาวรุ่งและนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในช่วงปีที่ผ่านมา คีลิยัน เอ็มบัปเป้, จู๊ด เบลลิงแฮม และ วินิซิอุส จูเนียร์ คือสามดาวรุ่งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้ท้าชิงรางวัลใหญ่ในปีนี้ พวกเขายังคงมีชื่อในรายชื่อผู้เข้าชิงตามความคาดหมาย เอ็มบัปเป้ ยังคงเป็นกองหน้าที่มีความเร็วและทักษะที่น่าทึ่ง ส่วนเบลลิงแฮม มีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในตำแหน่งกองกลาง และ วินิซิอุส จูเนียร์ เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมรุกที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในยุคนี้ การหลุดจากรายชื่อของเมสซี่และโรนัลโด้จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ยุคของทั้งสองกำลังจะสิ้นสุดลง ในขณะที่นักเตะรุ่นใหม่อย่างเอ็มบัปเป้, เบลลิงแฮม และวินิซิอุส กำลังขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ของวงการฟุตบอล และมีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นมาแทนที่พวกเขาในอนาคตอันใกล้

ข่าวบอล มีนิตยสารฟร้องซ์ ฟุตบอล จากฝรั่งเศส ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ 2024 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันพุธที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา โดยรายชื่อ 30 ผู้เล่นที่ลุ้นรางวัลนี้ รวมถึงสตาร์จากเรอัล มาดริดอย่าง เอ็มบัปเป้, เบลลิงแฮม และ วินิซิอุส ซึ่งมีชื่อเข้าชิงทั้งหมด ขณะที่ โรดรี้ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ติดรายชื่อเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมสซี่ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปีที่แล้ว และ โรนัลโด้ คู่แข่งสำคัญในยุคเดียวกัน หลุดจากรายชื่อในปีนี้

บัลลงดอร์ 2024

เปิดรายชื่อ 30 ผู้เล่นที่เข้าชิงรางวัล บัลลง ดอร์ 2024

- จู๊ด เบลลิงแฮม (อังกฤษ / เรอัล มาดริด)

- รูเบน ดิอาส (โปรตุเกส / แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

- ฟิล โฟเด้น (อังกฤษ / แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

- เฟเดริโก วัลเวร์เด้ (อุรุกวัย / เรอัล มาดริด)

- เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ (อาร์เจนตินา / แอสตัน วิลล่า)

- เออร์ลิง ฮาลันด์ (นอร์เวย์ / แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

- นีโก วิลเลียมส์ (สเปน / แอธเลติก บิลเบา)

- กรานิต ชาคา (สวิตเซอร์แลนด์ / ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)

- อาร์เต็ม ดอฟบิค (ยูเครน / จีโรน่า, ปัจจุบันอยู่ อาแอส โรม่า)

- โทนี่ โครส (เยอรมนี / เรอัล มาดริด, ปัจจุบันแขวนสตั๊ด)

- วินิซิอุส จูเนียร์ (บราซิล / เรอัล มาดริด)

- ดานี โอลโม่ (สเปน / แอร์เบ ไลป์ซิก, ปัจจุบันอยู่ บาร์เซโลน่า)

- ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (เยอรมนี / ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)

- มาร์ติน โอเดอการ์ด (นอร์เวย์ / อาร์เซน่อล)

- มัทส์ ฮุมเมิลส์ (เยอรมนี / โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ปัจจุบันอยู่ อาแอส โรม่า)

- โรดรี้ (สเปน / แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

- แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ / บาเยิร์น มิวนิค)

- เดแคลน ไรซ์ (อังกฤษ / อาร์เซน่อล)

- วิตินญ่า (โปรตุเกส / ปารีส แซงต์-แชร์กแมง)

- โคล พาลเมอร์ (อังกฤษ / เชลซี)

- ดานี การ์บาฆาล (สเปน / เรอัล มาดริด)

- ลามีน ยามาล (สเปน / บาร์เซโลน่า)

- บูคาโย ซาก้า (อังกฤษ / อาร์เซน่อล)

- ฮาคาน ชาลาโนกลู (ตุรกี / อินเตอร์ มิลาน)

- วิลเลียม ซาลิบา (ฝรั่งเศส / อาร์เซน่อล)

- คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส / ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, ปัจจุบันอยู่ เรอัล มาดริด)

- เลาตาโร มาร์ตีเนซ (อาร์เจนตินา / อินเตอร์ มิลาน)

- อเดโมลา ลุคแมน (ไนจีเรีย / อตาลันต้า)

- อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เยอรมนี / เรอัล มาดริด)

- อเล็กซ์ กรีมัลโด้ (สเปน / ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)

 พิธีมอบรางวัลบัลลง ดอร์ 2024 จะจัดขึ้นที่ เตียเตอ ดู ชาเตอเลต์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมนี้

วิคเตอร์ โอซีเมน ครองแชมป์ ท็อป 10 นักเตะค่าตัวสูงสุดในลีกตุรกี

ในที่สุด วิคเตอร์ โอซีเมน กองหน้าของ นาโปลี ได้ย้ายไปเล่นในลีกตุรกีกับ กาลาตาซาราย ภายใต้สัญญายืมตัวเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะได้รับความสนใจจากสโมสรในลีกซาอุดิอาระเบีย แต่เอเจนต์ของดาวยิงทีมชาติไนจีเรียยืนยันว่าเขายังไม่สนใจย้ายไปเล่นในตะวันออกกลาง ดูบอล เนื่องจากมีเป้าหมายในการเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก ลีกตุรกีไม่ได้มีเพียงแค่โอซีเมนเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยนักเตะชื่อดังหลายคนที่ย้ายมาร่วมทีมแบบยืมตัว เนื่องจากตลาดนักเตะในตุรกีปิดช้ากว่าลีกใหญ่ของยุโรป ทำให้สามารถดึงดูดผู้เล่นได้มากขึ้น และโอซีเมนก็กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวประเมินสูงสุดในลีก ตามข้อมูลจากทรานส์เฟอร์มาร์เก็ต

วิคเตอร์ โอซีเมน

ไปดูรายชื่อนักเตะค่าตัวแพงอีก 9 คนที่ติดท็อป 10 ของลีกตุรกีกัน

  1. เมาโร อิการ์ดี้ - 14.3 ล้านปอนด์

อดีตกองหน้าของปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ก่อนจะมาพิสูจน์ตัวเองในลีกตุรกี โดยยิงให้กาลาตาซารายไปแล้ว 56 ลูกจาก 79 นัด เฉลี่ย 0.7 ประตูต่อนัด

  1. เฟร็ด - 14.3 ล้านปอนด์

มิดฟิลด์อดีตทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเฟเนบาห์เช่ แม้ว่าค่าตัวจะลดลงในวัย 31 ปี แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับสโมสร

  1. อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง - 15.2 ล้านปอนด์

ปีกตัวเก่งย้ายจากนิวคาสเซิลไปเล่นที่ลีกซาอุดิอาระเบียกับอัล อาห์ลี ก่อนจะถูกเฟเนบาห์เช่ยืมตัวมาร่วมทีม เขาหวังจะเรียกฟอร์มกลับมาภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่

  1. ดาวินซอน ซานเชซ - 15.2 ล้านปอนด์ 

หลังออกจากสเปอร์สเมื่อปีก่อน กองหลังทีมชาติโคลอมเบียได้แชมป์ลีกและเตอร์กิชซูเปอร์คัพกับกาลาตาซาราย ค่าตัวประเมินของเขายังคงสูงกว่า 15 ล้านปอนด์

  1. กาเบรียล ซาร่า - 15.2 ล้านปอนด์

มิดฟิลด์ชาวบราซิลที่เล่นให้กับนอริชในแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลก่อน มีส่วนร่วมกับ 25 ประตู (13 ประตู 12 แอสซิสต์) หากเขาสามารถโชว์ฟอร์มที่กาลาตาซารายได้เช่นเดียวกัน เขาจะกลายเป็นฮีโร่ของทีมแน่นอน

  1. เซบาสเตียน ซีมานสกี้ - 16 ล้านปอนด์

กองกลางทีมชาติโปแลนด์ย้ายจากดินาโม มอสโกว มาร่วมทีมเฟเนบาห์เช่ และมีส่วนร่วมใน 32 ประตูจากทุกรายการ หากเฟเนบาห์เช่คว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาลนี้ เขาจะเป็นกำลังสำคัญของทีม

  1. บาริส อัลเปอร์ ยิลมาซ - 16.9 ล้านปอนด์ 

ปีกทีมชาติตุรกีที่รับใช้กาลาตาซารายมาเป็นปีที่สี่และเป็นนักเตะที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับสองของสโมสร สะท้อนถึงความสำคัญที่เขามีต่อทีม

  1. ยุสเซฟ เอ็น เนเซรี่ - 16.9 ล้านปอนด์

ไม่ว่าหัวหอกโมร็อกโกจะย้ายไปเล่นที่ไหน เขาก็ยังทำประตูได้สม่ำเสมอ ในฤดูกาลที่แล้วกับเซบีย่า เขายิงได้ 20 ลูก และปัจจุบันเขาเปิดตัวที่เฟเนบาห์เช่ได้อย่างดี หลังจากเซ็นสัญญากับทีมด้วยค่าตัวสูงกว่า 16 ล้านปอนด์

  1. โซฟียาน อัมราบัต - 18.5 ล้านปอนด์

หลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาถาวรกับเขา กองกลางโมร็อกโกวัย 28 ปีก็ย้ายจากฟิออเรนติน่ามาร่วมทีมเฟเนบาห์เช่ด้วยสัญญายืมตัว

  1. วิคเตอร์ โอซีเมน - 84.2 ล้านปอนด์ 

โอซีเมน มีค่าตัวประเมินสูงที่สุดในลีกตุรกีถึง 65.7 ล้านปอนด์เหนือกว่าคนอื่นๆ หลังจากที่ อันโตนิโอ คอนเต้ หั่นชื่อเขาออกจากทีม โอซีเมนก็ปฏิเสธข้อเสนอจากเชลซีและอัล อาห์ลี และเลือกย้ายมาร่วมทีมกาลาตาซารายด้วยสัญญายืมตัวที่มาพร้อมเงื่อนไขยุติสัญญาในเดือนมกราคม หากนาโปลียินดีตอบรับข้อเสนอจาก 10 สโมสรที่กำหนดไว้