ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องของ บาร์เซโลน่า นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมในฤดูกาลนี้ เมื่อล่าสุดพวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่าง เอสปันญ่อล ในศึกดาร์บี้แมตช์ไปได้ 3-1 ซึ่งถือเป็นชัยชนะที่สำคัญอย่างมาก ชัยชนะในเกมนี้ทำให้ บาร์เซโลน่า สามารถเก็บเพิ่มเติมเป็น 33 คะแนนจากการลงสนาม 12 นัดแรกในฤดูกาลนี้ โดยมีสถิติการชนะ 11 นัด และแพ้เพียง 1 นัดเท่านั้น ซึ่งถือเป็นฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นอย่างมาก นอกจากนี้ผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมยังส่งผลให้เกิดเกร็ดความน่าสนใจบางอย่างตามมาด้วย ทั้งหมดนี้ย่อมแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของ บาร์เซโลน่า ในการแข่งขันเพื่อคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้
ในฤดูกาลนี้ บาร์เซโลน่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกลา ลีกา โดยสามารถทำประตูได้ถึง 40 ลูกในเพียง 12 นัดแรก ซึ่งถือเป็นสถิติที่โดดเด่นมากในวงการฟุตบอลยุโรป
หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด แล้ว บาร์เซ โลน่ามีผลงานการทำประตูที่โดดเด่นกว่าทั้งคู่อย่างเห็นได้ชัด โดย เรอัล มาดริด ทำได้เพียง 21 ประตู และ แอตเลติโก มาดริด ทำได้เพียง 18 ประตู รวมกันแล้วยังน้อยกว่าบาร์เซ โลน่าอีก
นอกจากนี้ ในฤดูกาลนี้ ยังถือว่าเป็นปีที่บาร์เซ โลน่าทำประตูได้เยอะเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยอันดับ 1 คือฤดูกาล 1950-51 ที่ทำได้ถึง 42 ประตู แต่ในฤดูกาลนั้น บาร์เซโลน่า กลับจบอันดับ 4 ในลีก
ในบรรดา 5 ลีกยักษ์ใหญ่ของยุโรป บาร์เซ โลน่าก็ถือเป็นทีมเดียวที่มีผู้เล่นถึง 4 คนทำประตูได้อย่างน้อย 5 ลูกในฤดูกาลนี้ ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ยากต่อการรับมือสำหรับคู่แข่ง โดยผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ทำไปแล้ว 14 ลูก ตามมาด้วย ราฟินญ่า (7 ลูก), ลามีน ยามาล และ ดานี่ โอลโม่ (5 ลูกเท่ากัน)
นอกเหนือจากการเล่นเกมรุกที่โดดเด่นของบาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของฮันซี่ ฟลิค แล้ว เกมรับของพวกเขาก็มีความเด่นชัดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการดักจับล้ำหน้าของคู่แข่ง ในเกมที่พบกับเอสปันญ่อล บาร์เซ โลน่าสามารถจับล้ำหน้าของคู่แข่งได้ถึง 6 ครั้ง ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก และสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเกมรับของพวกเขา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บาร์เซ โลน่าสามารถคว้าชัยชนะในเกมนั้นได้
ยิ่งไปกว่านั้น หากพิจารณาสถิติทุกรายการที่บาร์เซโลน่าลงสนาม พวกเขาเป็นทีมที่จับล้ำหน้าคู่แข่งได้มากที่สุดในบรรดา 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรป โดยสามารถทำได้รวมแล้วถึง 99 ครั้ง หรือเฉลี่ยถึง 6.6 ครั้งต่อเกม ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ความสามารถในการจับล้ำหน้าของบาร์เซ โลน่านั้น ส่งผลให้ในฤดูกาลนี้ มีถึง 13 ครั้งที่คู่แข่งของพวกเขาส่งบอลเข้าไปในก้นตาข่าย แต่ถูกตัดสินว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ซึ่งในจำนวนนั้น 7 ครั้งต้องอาศัยการช่วยเหลือจากระบบ VAR มาตัดสิน ด้วยความแข็งแกร่งของเกมรับและความสามารถในการดักจับล้ำหน้า จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บบาร์เซโลน่าในยุคของฮันซี่ ฟลิคสามารถรักษามาตรฐานระดับสูงในการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง
บาร์เซโลน่า สโมสรฟุตบอลชื่อดังระดับโลก ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและความสำเร็จมากมาย ก่อตั้งในปี 1899 โดย กลุ่มนักเรียนชาวสเปน และเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในสเปน เป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสเปน ด้วยการคว้าแชมป์ลาลีกามากถึง 26 สมัย และยังเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุโรป ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมาแล้ว 5 สมัย ทีมบาร์เซโลน่ามีนักเตะที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายรายเช่น ลิโอเนล เมสซี่, อันดรัส อิเนียสต้า, เคราร์ด ปิเก้ และ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ซึ่งล้วนแต่เป็นนักเตะที่มีความสามารถอันโดดเด่น และเป็นที่รู้จักกันดีในวงการฟุตบอลโลก
