วันที่ 31 ตุลาคม 2567 แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั่วโลกต่างลุ้นระทึกเมื่อ สกาย สปอร์ตส สื่อกีฬาชื่อดังในอังกฤษ รายงานว่า แมนยู ใกล้เปิดตัว รูเบน อโมริม กุนซือฝีมือดีจากสปอร์ติง ลิสบอน เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่แทน เอริก เทน ฮาก ที่เพิ่งอำลาทีมไป การแต่งตั้งนี้นับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความหวังใหม่ให้แฟนบอล ปีศาจแดง อีกครั้ง
ตามรายงานระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกลงจ่ายค่าฉีกสัญญาให้กับสปอร์ติง ลิสบอน รวมเป็นเงิน 10 ล้านยูโร หรือประมาณ 370 ล้านบาท นอกจากนี้ แมนยูฯ ยังยินดีจ่ายเพิ่มอีก 1 ล้านยูโร (ราว 37 ล้านบาท) เพื่อชดเชยค่าแจ้งล่วงหน้า 30 วันก่อนที่ รูเบน จะย้ายจากโปรตุเกสเพื่อมารับงานที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด การเจรจานี้ผ่านไปอย่างราบรื่น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทีมแมนยูฯ
รูเบน อโมริม
ไม่เพียงแต่ รูเบน อโมริม ที่จะมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่เท่านั้น แมนยูฯ ยังได้เจรจากับสปอร์ติง ลิสบอนเพื่อพาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชฝีมือดีเข้ามาช่วยพัฒนาทีมด้วย ซึ่งประกอบด้วยบุคลากร 5 คน ได้แก่ เอมานูเอล แฟร์โร, อเดลิโอ คันดิโด, คาร์ลอส แฟร์นันเดส โค้ชผู้ช่วย, จอร์จ วิตัล โค้ชผู้รักษาประตู และเปาโล บาร์เรรา นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งบุคลากรทั้ง 5 คนนี้นับเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่จะช่วยให้ อโมริม สามารถนำแนวทางใหม่มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมปีศาจแดงได้เต็มที่
สำหรับสัญญาที่ รูเบน อโมริม จะเซ็นกับแมนยูฯ คาดว่าจะเป็นสัญญาระยะเวลา 2 ปีครึ่ง พร้อมออปชั่นในการขยายสัญญาเพิ่มอีก 1 ปี โดยในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยแน่ชัดว่า รุด ฟาน นิสเตลรอย กุนซือชั่วคราวของแมนยูฯ จะได้ร่วมงานในฐานะหนึ่งในทีมงานโค้ชของอโมริมหรือไม่ ซึ่งแฟนบอลต่างก็เฝ้ารอดูความเปลี่ยนแปลงในทีมนี้อย่างใกล้ชิด
กำหนดการแข่งขันของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ก่อนการเข้ารับตำแหน่งของ อโมริม แม้ว่า รูเบน อโมริม จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แต่ในระหว่างนี้ รุด ฟาน นิสเตลรอย ยังต้องทำหน้าที่คุมทีมต่อไปจนถึงการแข่งขันนัดสุดท้ายก่อนเบรกทีมชาติ ซึ่งรวมถึงการแข่งขันในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ที่แมนยูฯ จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของเชลซีในศึกพรีเมียร์ลีก ต่อด้วยการพบกับ พีเอโอเค ในศึกยูโรปาลีก รอบลีกเฟส นัดที่ 4 ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 และปิดท้ายด้วยการพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ในศึกพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 - แมนยูฯ พบ เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 - แมนยูฯ พบ พีเอโอเค (ยูโรปาลีก)
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 - แมนยูฯ พบ เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
หลังจากเบรกทีมชาติในเดือนพฤศจิกายนนี้ รูเบน จะประเดิมคุมทีมแมนยู เป็นครั้งแรกในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 นัดนี้ถือเป็นนัดที่แฟนบอลแมนยูฯ ตั้งตารอคอย เพราะเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ที่มาพร้อมความคาดหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงทีมไปในทางที่ดีขึ้น
แมนยูฯ หวังว่า รูเบน จะสามารถนำทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งด้วยสไตล์การคุมทีมที่โดดเด่น ซึ่งเคยสร้างผลงานไว้ในลีกโปรตุเกสกับสปอร์ติง ลิสบอน ไม่เพียงแต่เทคนิคการเล่นที่ทันสมัย อโมริมยังมีวิธีการปลูกฝังทัศนคติและความทุ่มเทให้กับนักเตะ ทำให้แฟนบอลและทีมต่างมีความคาดหวังสูงต่อผลงานในช่วงต่อไป
การจัดทัพที่แข็งแกร่ง - อโมริมมีความสามารถในการจัดทัพและวางแผนการแข่งขันได้อย่างมีระบบ ซึ่งอาจช่วยให้แมนยูฯ มีเกมรุกที่ดุดันและเกมรับที่แข็งแกร่งขึ้น
พัฒนาศักยภาพนักเตะ - การเข้ามาของโค้ชและทีมงานจากสปอร์ติง ลิสบอน คาดว่าจะช่วยให้นักเตะของแมนยูฯ ได้รับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่และปรับปรุงทักษะได้อย่างต่อเนื่อง
สไตล์การเล่นที่สร้างสรรค์ - ด้วยแนวทางการเล่นที่เน้นการครองบอลและการบุกเชิงสร้างสรรค์ อโมริมอาจนำแมนยูฯ กลับมาเป็นทีมที่ครองเกมและสร้างโอกาสการทำประตูได้มากขึ้น
ติดตาม ดูบอลสด นัดแรกของ รูเบน อโมริม ที่จะคุมทีมนัดแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ซึ่งจะเป็นการทดสอบความสามารถและแนวทางของผู้จัดการทีมคนใหม่ รวมถึงการปรับตัวของนักเตะในยุคใหม่ที่มาพร้อมความท้าทาย
