เริ่มเข้าที่เข้าทางกันแล้วสำหรับ “สิงห์บลู” เชลซี ทีมชื่อดังจากลอนดอน หลังจากเพิ่งแสดงฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการบุกไปถล่ม “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ถึงถิ่น 6–2 ไฮไลต์ของเกมนี้คงไม่พ้นการทำงานร่วมกันของโคล พาลเมอร์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ และโนนี มาดูเอเก มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีม โดยมาดูเอเกทำไป 3 ประตู ขณะที่พาลเมอร์ก็ทำแฮตทริกในการแอสซิสต์ให้โนนีซัดทั้ง 3 ลูก การยิงแฮตทริกของโนนีนั้นถือเป็นครั้งแรกในเส้นทางอาชีพของเขา ส่วนพาลเมอร์วันนี้โชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งด้วยการยิง 1 ประตูและทำอีก 3 แอสซิสต์ หากใครนั่งดูอยู่จะเห็นว่าการประสานงานของทั้งคู่เป็นไปอย่างลงตัว “มองตาก็รู้ใจกัน” เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม คู่หูดูโออย่าง “โนนี-พาลเมอร์” ไม่ใช่นักเตะจากพรีเมียร์ลีกคู่แรกที่มีนักเตะคนเดียวผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมคนเดียวยิงได้ 3 ลูก หรือมากกว่านั้นในเกมเดียว โดยทั้งคู่ทำ ได้เป็นคู่ที่ 5 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำให้วันนี้ “มะระหวาน” รวบรวมมาให้ว่าอีก 4 คู่หูที่ระเบิดฟอร์มการประสานงานกันอย่างสุดยอดแบบนี้มีใครกันบ้างไล่ไปดูกันตั้งแต่คู่แรก
การประสานงานที่สร้างความประทับใจในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกเกิดจากคู่หูจากแบล็กเบิร์น โดยพวกเขาทำได้ในเกมที่แบล็กเบิร์นเอาชนะโคเวนทรีไป 5-1 ในเกมนั้น เชียร์เรอร์ทำแฮตทริกได้ และเป็นนีเวลล์ที่จ่ายให้เจ้าของฉายา “ฮอตช็อต” ยิงทั้ง 3 ประตู ในฤดูกาลนั้น เชียร์เรอร์ยังได้รับตำแหน่งรองดาวซัลโวของลีกอีกด้วย
หลังจากที่คู่หูคู่แรกจากแบล็กเบิร์นสร้างประวัติศาสตร์เอาไว้แล้ว ตอนนี้ถึงคิวของคู่หูจอมแสบ “ฟาวเลอร์-คอลลีมอร์” ที่จะสร้างชื่อเสียงบ้าง ซึ่งเป็นเกมที่ลิเวอร์พูลต้องเผชิญหน้ากับอาร์เซนอลในช่วงก่อนคริสต์มาส โดยที่ “เดอะ กันเนอร์ส” เป็นฝ่ายนำไปก่อน แต่สุดท้ายเป็นคอลลีมอร์ที่จ่ายแอสซิสต์ 3 ครั้งให้ฟาวเลอร์ยิงทำประตู ส่งผลให้ลิเวอร์พูลกลับมาชนะอาร์เซนอลได้ 3-1
ย้อนกลับไปในช่วงที่อาร์เซนอลกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด และเป็นทีมเดียวที่สามารถท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ เราได้เห็นอองรีทำประตูได้อย่างมากมาย โดยมีลุงเบิร์กคอยทำแอสซิสต์อยู่บ่อยครั้ง ในช่วงฤดูกาล 2002-2003 ที่อาร์เซนอลกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด และเป็นทีมเดียวที่สามารถท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้นั้น เราได้เห็นอองรีทำประตูได้อย่างมากมาย โดยมีกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสยิงไป 24 ประตูจาก 37 นัดในลีก แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือเขายังทำแอสซิสต์ได้ถึง 20 ครั้ง โดย 3 ใน 20 แอสซิสต์นั้นคือการที่อองรีจ่ายบอลให้ลุงเบิร์กทำแฮตทริกในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อ "ไอ้ปืนใหญ่" ถล่มซันเดอร์แลนด์ไป 4-0 อย่างขาดลอย ความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างอองรีและลุงเบิร์กนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาร์เซนอลเล่นได้อย่างลงตัวและประสบความสำเร็จในช่วงเวลานั้น
เคนและซนเป็นคู่หูที่มีความสำเร็จร่วมกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยทั้งคู่ทำประตูและแอสซิสต์รวมกันทั้งสิ้น 47 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในการประสานงานที่น่าประทับใจก็คือในเกมที่ทอตแนม ฮอตสเปอร์ บุกไปเอาชนะ "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน คารัง 5-2 ในแมตช์นี้เคนทำ 4 แอสซิสต์ให้ซนยิงคนเดียว 4 ประตู และกัปตันทีมชาติอังกฤษยังสามารถทำประตูได้อีก 1 ลูกด้วย
ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าระหว่าง โนนีกับพาลเมอร์ จะมีใครเป็นคู่หูอันตรายคู่ใหม่ที่จะสามารถทำสถิติแบบนี้เพิ่มขึ้นได้อีกหรือไม่ได้ที่ livesodball ตลอดทุกวัน