วิเคราะห์ : ทีมชาติจีน VS ทีมชาติไทย ฟุตบอลทีมชาติไทยลุ้นเก็บชัยในแผ่นดินมังกร ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนัดที่ 5 (ช่องทางดูบอลสด)
ทีมชาติจีน VS ทีมชาติไทย
วันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น.
สนาม : เสิ่นหยาง โอลิมปิก สปอร์ต เซนเตอร์ สเตเดียม ,เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน
เกมนี้เป็นเกม ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 นัดที่ 4 การพบกันระหว่าง "ขุนพลแดนมังกร" ทีมชาติจีน และ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่สนาม เสิ่นหยาง โอลิมปิก สปอร์ต เซนเตอร์ สเตเดียม ,เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน นัดแรกที่เจอกันที่กรุงเทพ ทีมชาติไทย พลาดท่าเปิดบ้านพ่ายให้กับ ทีมชาติจีน ไปอย่างน่าเสียดายด้วยสกอร์ 1 - 2 หลังนำไปก่อน 1 - 0 จาก สารัช อยู่เย็น ก่อนที่จะโดนทีมชาติจีนพลิกแซงได้ในที่สุด ซึ่งนัดนั้นยังเป็นการคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง อยู่ การพ่ายแพ้ในนัดนั้นแฟนบอลทีมชาติไทยเสียดายเป็นอย่างมากเนื่องจากรูปเกมไม่เป็นรองเลย ทีมชาติจีนในวันนั้นไม่น่ากลัวเท่าไร ในนัดนี้มีโอกาสที่จะแก้มืออีกครั้ง โดยทีมชาติไทย มีพัฒนาการจากวันนั้นค่อนข้างชัดเจน ส่วนทีมชาติจีนก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกันในส่วนของผู้เล่นที่โอนสัญชาติมา และกุนซือที่เปลี่ยนจาก อเล็กซานดรา ยานโควิช กุนซือชาวเซอร์เบีย ที่คุมทีมเจอไทยในนัดแรก มาเป็น บรังโก้ อีวานโควิชกุนซือไว้ 69 ปีชาวโครเอเชีย
สถานการณ์ล่าสุดของกลุ่ม C ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบที่ 2 โซนเอเชีย เกาหลีใต้มี 10 คะแนน นำเป็นอันดับ 1 อยู่ ทีมชาติจีน ตามมาเป็นที่ 2 โดยมี 7 คะแนน ขณะที่ทีมชาติไทยมี 4 คะแนน อยู่ในอันดับ 3 และสิงคโปร์อยู่อันดับสุดท้ายมีเพียงแต้มเดียว ในนัดนี้เป็นการวัดอนาคตทีมชาติไทยในการที่จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป หากนัดนี้เก็บ 3 แต้มได้ตามเป้าโอกาสผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเปิดกว้างทันที ถ้าหากเสมอก็ยังมีโอกาสอยู่เพียงแต่เงื่อนไขเยอะขึ้น โดยไทยต้องชนะ สิงคโปร์ ในนัดสุดท้าย และ จีนต้องแพ้เกาหลีใต้ โดยทำประตูได้เสียให้มากกว่าจีนด้วย แต่ถ้าไทยแพ้ในนัดนี้ จะตกรอบทันที
จีน
ไทย
การพบกันของ 2 ทีม
วิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกม
จากในนัดแรกที่พบกันทีมชาติจีนเป็นฝ่ายชนะไปได้ก่อน ทำให้สถานการณ์ขณะนั้น ทีมชาติจีนกุมความได้เปรียบไปก่อนสำหรับโอกาสเข้ารอบต่อไป แต่แล้วหลังจากนั้น ทีมชาติจีนไปสะดุดทำได้เพียงบุกไปเสมอกับสิงคโปร์ และ ทีมชาติไทยบุกไปเสมอเกาหลีใต้ได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พลิกล็อกทั้งคู่ ทำให้สถานการณ์การลุ้นเข้ารอบกลับมาสนุกอีกครั้ง นัดนี้เป็นนัดที่จะวัดว่าทีมชาติไทยจะยังมีโอกาสเข้ารอบได้หรือไม่ถ้าหากชนะจะกุมความได้เปรียบไปในทันที ถ้าหากเสมอ ก็ต้องไปลุ้นหนักในนัดสุดท้าย แต่ถ้าแพ้จะหมดลุ้นทันที
ทางด้านเจ้าบ้านทีมชาติจีน มีการเรียก รวบรวมนักเตะทั้งหมดลงทำการฝึกซ้อมเป็นระยะเวลา 10 วันและวางเป้าหมายชัดเจนในเกมที่พบกับทีมชาติไทย คือการเดินหน้าคว้าชัยชนะเพื่อการันตีโอกาสเข้ารอบต่อไป ผลงานช่วงหลังไม่ค่อยดีนัก 8 นัดหลังชนะเพียงนัดเดียว และแพ้ไปถึง 4 นัด ถึงแม้ว่า 2 นัดหลังสุดนี้จะเปลี่ยนมาใช้ บรังโก้ อีวานโควิช แล้วแต่ก็เก็บได้เพียง 4 แต้ม จาก 2 นัดกับสิงคโปร์ ทั้งที่ควรจะเก็บได้ 6 แต้มเต็ม
ส่วนทางด้านทีมชาติไทยที่มี มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นเฮดโค้ช สไตล์การเล่นชัดเจน เน้นเกมรับแต่รับเป็นทีม เปลี่ยนรับเป็นรุกเป็นทีมเมื่อมีโอกาส นัดที่ไปเยือนเกาหลีใต้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสู้กับทีมระดับโลกอย่างเกาหลีใต้ ด้วยวิธีการที่เป็นแบบแผน และมีวินัย แต่นัดล่าสุดก็ต้านทีมระดับโลกไม่ไหว นัดนี้พวกเขาต้องเล่นเกมรับต้องเล่นแบบมีสมาธิ มีวินัยแบบเดิม แต่อาจจะต้องเน้นการจบสกอร์เมื่อมีโอกาสให้คมกว่าเดิม เพื่อให้สามารถเก็บ 3 แต้มเต็มให้ได้ในนัดนี้ การได้กองหน้าตัวหลักอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง และการได้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่หายเจ็บกลับมาทัน ทำให้ทัพช้างศึกมีหวังในการเก็บชัยมากในนัดนี้
เกมนี้เชื่อว่า ทีมชาติไทยจะเอาตัวรอดได้จากแบบแผนการเล่น วินัยในเกมรับ การเล่นร่วมกันของนักเตะที่เคยผ่านระดับเจลีก และยุโรป คาดว่าเกมนี้ทีมชาติไทยจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้อีกครั้งด้วยการ เอาชนะทีมชาติจีนไปได้และส้างความได้เปรียบในการเข้ารอบต่อไปได้