อาร์เซนอลโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการถล่ม โบลตัน วันเดอเรอร์ส 5-1 ในศึกคาราบาว คัพ รอบที่ 3 ณ สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2024 โดยเกมนี้เต็มไปด้วยไฮไลท์และประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งส่งผลต่อทั้งตัวผู้เล่นและทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ในอนาคต
ฟอร์มร้อนแรงของผู้เล่นสำรองอาร์เตต้าเลือกพักตัวหลักหลายรายและให้โอกาสผู้เล่นสำรองได้ลงสนาม แต่พวกเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นักเตะอย่าง รีสส์ เนลสัน และ เอมิล สมิธ โรว์ โดดเด่นในการสร้างเกมรุก โดยเนลสันทำไป 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์ ขณะที่สมิธ โรว์ทำแอสซิสต์ได้เช่นกัน ฟอร์มการเล่นของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความลึกของทีม และอาจเพิ่มตัวเลือกให้กับอาร์เตต้าในเกมลีกและถ้วยอื่นๆ
แม้ในเกมนี้ อาร์เซนอลจะใช้ผู้เล่นดาวรุ่งหลายตำแหน่ง แต่แนวรุกของทีมยังคงพึ่งพาตัวหลักจากทีมชุดใหญ่อยู่เป็นส่วนใหญ่ ทำให้รูปแบบการเล่นของทีมมีความลงตัวและไม่ต้องใช้เวลาปรับจูนมากนักหากพิจารณาจากการเลือก 11 ผู้เล่นตัวจริง มีเพียงแนวรับเท่านั้นที่ดาวรุ่งสามคนอย่าง เซบาสเตียน พอร์เตอร์, ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ และ ชาร์ลี นิโคล ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง ในขณะที่ อีธาน เอนวาเนรี่ ลงเล่นในแนวรุก ซึ่งยกเว้นพอร์เตอร์แล้ว
ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ใช่ชื่อใหม่สำหรับแฟนบอลอาร์เซนอล เพราะพวกเขาผ่านการติดทีมในช่วงปรีซีซั่นก่อนฤดูกาลนี้เต็มตัว และ มิเกล อาร์เตต้า ก็ยืนยันมาตลอดว่าดาวรุ่งเหล่านี้ทำผลงานได้ดีในการซ้อมและพร้อมรับโอกาสเมื่อถึงเวลา ผลลัพธ์คือพวกเขาไม่ทำให้ผิดหวัง โดยเฉพาะ เอนวาเนรี่ ที่จบเกมด้วยการทำสองประตู ซึ่งจะเป็นเกมที่น่าจดจำสำหรับเขาอย่างแน่นอน และคาดว่าเขาจะได้รับโอกาสมากขึ้นในอนาคต
กาเบรียล เฆซุส กลับมาท็อปฟอร์ม กาเบรียล เฆซุส ทำแฮตทริกในเกมนี้ ถือเป็นการกลับมาท็อปฟอร์มที่สำคัญของเขาหลังจากฟอร์มในลีกไม่คงเส้นคงวา เฆซุสแสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาดในการจบสกอร์ และสร้างโอกาสได้ดีในหลายๆ จังหวะ หากเขารักษาฟอร์มนี้ไว้ได้ จะเป็นข่าวดีสำหรับอาร์เซนอลในการลุ้นแชมป์รายการใหญ่
ในเกมที่อาร์เซนอลชนะโบลตัน 5-1 มีอย่างน้อยสองประตูที่มาจากความผิดพลาดส่วนบุคคลของแนวรับทีมเยือน ไม่ว่าจะเป็นการสกัดวืดที่เปิดโอกาสให้ ดีแคลน ไรซ์ ยิงประตูแรก หรือการเซตบอลหน้าประตูตัวเองที่ผิดพลาดจนเสียประตูที่สาม ซึ่งการผิดพลาดเหล่านี้ส่งผลให้ทีมเยือนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างหนัก ในขณะเดียวกัน โบลตันก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลงโทษอาร์เซนอลจากความผิดพลาดของพวกเขาเอง เมื่ออาร์เซนอลพยายามดันเกมรุก แต่ถูกโบลตันสวนกลับได้อย่างเฉียบขาด จนทำให้พวกเขาทวงคืนมาได้หนึ่งประตู โดยภาพรวม อาร์เซนอลเหนือกว่าชัดเจนทั้งในด้านคุณภาพของผู้เล่น ความเข้าใจเกม และการเข้าทำที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังมีจุดที่ต้องพัฒนา โดยเฉพาะการสร้างสรรค์เกมรุกที่ยังขาดความหลากหลาย
การโรเตชั่นผู้เล่นและโอกาสของดาวรุ่ง มิเกล อาร์เตต้า ใช้โอกาสนี้ในการโรเตชั่นทีมและให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง คาอิ ฮาแวร์ตซ์ และ ชาร์ลี ปาติโน ลงสนาม ฮาแวร์ตซ์แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการครองบอลและการจ่ายที่เฉียบขาด ขณะที่ปาติโนก็สร้างความประทับใจในการคุมเกมแดนกลาง นี่อาจเป็นสัญญาณว่าอาร์เตต้าจะให้โอกาสพวกเขาได้ลงเล่นมากขึ้นในอนาคต
เกมรับยังมีจุดอ่อนให้แก้ไขแม้ว่าทีมจะชนะด้วยสกอร์ขาดลอย แต่การเสีย 1 ประตูให้กับโบลตัน ซึ่งเป็นทีมจากลีกที่ต่ำกว่า แสดงให้เห็นว่าทีมยังคงมีจุดอ่อนในแนวรับ โดยเฉพาะจังหวะการตั้งรับลูกตั้งเตะที่ยังไม่แข็งแกร่งพอ การปล่อยให้โบลตันมีโอกาสยิงจากระยะใกล้จนทำประตูได้ อาจเป็นสิ่งที่อาร์เตต้าต้องปรับปรุงเพื่อเตรียมตัวรับมือกับทีมที่แข็งแกร่งกว่าในอนาคต
แรงกระตุ้นที่สำคัญในการลุ้นแชมป์ ชัยชนะที่ท่วมท้นในเกมนี้เป็นแรงกระตุ้นที่ดีสำหรับอาร์เซนอลในการลุ้นแชมป์รายการนี้ ซึ่งทีมไม่สามารถคว้าแชมป์คาราบาว คัพได้มานานหลายปีแล้ว ผลงานในเกมนี้ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นใจให้กับผู้เล่น แต่ยังส่งสัญญาณไปยังทีมคู่แข่งว่าพวกเขามีความพร้อมและความแข็งแกร่งในทุกตำแหน่ง
สรุป: ชัยชนะ 5-1 ของอาร์เซนอลในเกมนี้ไม่เพียงแต่ยืนยันฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของผู้เล่นหลายคน แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าทีมมีความพร้อมและความลึกที่จะต่อสู้ในทุกรายการ แต่ยังมีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะในแนวรับ
