ศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาล 2024/2025 นัดที่สาม ผลงานของเชลซี ในเกมนี้ ทีมเชลซี ทำผลงานได้อย่างร้อนแรง โดยทำประตูได้ถึง 8 ลูก ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทำประตูได้เลย ผู้เล่นหลายรายของเชลซี ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น เช่น ฮาคีม ซิเย็ค ที่ทำแฮตทริคได้ในเกมนี้ ความฟิตและความพร้อมของทีมเชลซี ในเกมนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาเอาชนะได้อย่างขาดลอยผลการแข่งขันและตำแหน่งของทีม ในรอบลีก เฟส ความพร้อมและฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของทีมในเกมนี้ สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก
เริ่มเกมได้เพียงแค่สองนาที แต่ทีมเยือนเกือบทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านช็อก กอนซาโล่ เกรโกริโอ มีโอกาสได้ซัดไกลเต็มข้อ แต่บอลดันพุ่งตรงตัว ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น ทำให้สามารถป้องกันเอาไว้ได้ นาทีที่ 12 ทีมเชล ซี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุม เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เปิดบอลเข้าหัว โทซิน อดาราบิโอโย่ โทซินโขกอย่างเด็ดขาด บอลพุ่งเสียบตาข่ายชนิดที่ อ็อกนีเยน ชานชาเรวิช หมดสิทธิ์เซฟ อีกแค่หนึ่งนาทีถัดมา ทีมเชล ซี ได้ประตูขึ้นนำ 2-0 โนอาห์ ได้เขี่ยบอลเริ่มเกมกลางสนาม กอนซาโล่ ซิลวา ดันส่งบอลพลาด ทำให้ มาร์ก กิว วิ่งมาตัดบอล ก่อนลากเข้าไปตะบันประตู ในนาทีที่ 18 ลูกทีมของกุนซือเอ็นโซ่ มาเรสก้า ได้ประตูหนีห่างเป็น 3-0 จากจังหวะเตะมุมของ เฟร์นานเดซ อักแซล ดิซาซี่ ไม่พลาดโอกาสทอง จัดการโหม่งเข้าประตูไปอย่างงดงาม
ในนาทีที่ 21 "สิงห์บลูส์" ได้ยิงประตูเพิ่มเป็น 4-0 กิว แย่งบอลมาจาก ซิลวา ก่อนที่บอลจะทะลักมาถึง เฟร์นานเดซ เฟร์นานเดซ ส่งบอลให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ซึ่งสามารถเข้าไปซัดประตูได้อย่างสบายๆ เพียงสองนาทีต่อมา เชลซี ยิงนำห่างเป็น 8-0 หลังจากนั้น เชลซี เน้นการประคองเกม รอจังหวะที่เหมาะสมในการโจมตี เชลซี ควบคุมเกมได้เป็นอย่างดี กรรมการเป่านกหวีดหมดครึ่งแรก โดยยังคงแซงนำ "สิงห์บลูส์" อยู่ที่ 6-0 ด้วยการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ "สิงห์บลูส์" ทำให้พวกเขาสามารถขยับคะแนนไปเป็น 6-0 ในครึ่งแรกของเกมนี้ เชล ซีแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าในทุกด้านของเกม ทั้งการครองบอล การสร้างโอกาส และการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนๆ "สิงห์บลูส์" ต้องชื่นชมและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ครึ่งหลังของเกมนี้ เชลซี ยังคงควบคุมเกมได้อย่างเหนือกว่าเสมอ ทีมเยือนสร้างโอกาสในการยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องในนาทีที่ 69 เอ็นกุนกู ได้บอลหลุดเข้าไปยิงประตูเพิ่มให้ทีมเจ้าบ้านเป็น 6-0 เกมยังไม่จบลง เชลซีก็ยังพุ่งหน้าบุกอย่างต่อเนื่องในนาทีที่ 72 ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์ โดน ยาน เอเตกี ทำฟาวล์แม้ในตอนแรกกรรมการจะไม่ให้จุดโทษ แต่ด้วยการแนะนำของ VAR จึงให้เป็นจุดโทษเอ็นกุนกู รับหน้าที่สังหารไม่เหลือซาก ทำให้เชลซีนำห่างเป็น 8-0 ในนาทีที่ 76 ช่วงเวลาที่เหลือของเกมนี้เชลซี เริ่มผ่อนเกมลงไปเยอะทำให้ โนอาห์ ของทีมเยือนมีโอกาสได้บุกใส่และลุ้นทำประตูตีไข่แตกแต่ก็ทำไม่สำเร็จจนจบเกม
สรุปเชลซีเก็บชัยชนะอย่างสวยหรู 8-0 ในเกมนี้ ด้วยการแสดงฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่ยังคงควบคุมเกมได้อย่างเหนือกว่าเสมอ และสร้างโอกาสยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งจบเกม