ข่าวบอล สัญญาของกุนซือชาวดัตช์ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะหมดลงในปี 2025 โดยมีออปชั่นต่อสัญญาเพิ่มหลังจากนั้นอีก 1 ปี แต่ดูเหมือนว่ากำลังจะมีการขยายสัญญาให้นานกว่านั้นอีกด้วย ดูบอล เอริค เทน ฮาก คือโค้ชชาวดัตช์ที่เพิ่งพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เอฟเอ คัพในซีซั่นแรกของเขากับสโมสร ถึงแม้ว่าผลงานในลีกจะไม่เป็นที่น่าพอใจนัก แต่ก็ได้รับความไว้วางใจจากสโมสรให้คุมทีมต่อไปจนถึงปี 2025 พร้อมมีออปชั่นต่อสัญญาเพิ่มอีก 1 ปี
ในฤดูกาลหน้า แฟนบอลคาดหวังให้ เทน ฮาก พัฒนาทีมให้เล่นเป็นระบบและมีความเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น ผลงานในเกมลีกอาจยังไม่สามารถแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล หรือ ลิเวอร์พูล ได้ แต่ควรมีลุ้นแชมป์ในรายการบอลถ้วยอย่าง ยูโรปา ลีก ที่จะมีโอกาสสูงขึ้น เนื่องจากไม่มีการตกรอบจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เข้ามาขัดขวาง
สิ่งสำคัญคือ เทน ฮาก ต้องสร้างระบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และยกระดับฟอร์มการเล่นของทีมให้สูงขึ้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมดาวรุ่งจากอะคาเดมีให้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
ดูบอล มันคงไม่ดีนัก ถ้าปล่อยให้กุนซือชาวดัตช์ทำงานต่อไปโดยไม่รู้ว่าตัวเองจะตกงานตอนไหน ซึ่งถ้าหากมีสัญญารับประกันเอาไว้ อย่างน้อยๆ ก็จะมีค่าชดเชยรองรับ ถ้าหากซีซั่นหน้าเขาดันโดนไล่ออกกลางคัน นอกจากนั้นแล้ว เทน ฮาก น่าจะมีสมาธิในการทำงาน และวางแผนเพื่อสโมสรในระยะยาวได้ดีกว่าการคุมทีมไปโดยไม่รู้ว่าจะได้อยู่ในตำแหน่งอีกนานแค่ไหน การเจรจาคว้าผู้เล่นใหม่ ก็จะมีความชัดเจนสำหรับนักเตะคนนั้น ว่ากำลังจะย้ายเข้ามาเล่นโดยที่มีใครเป็นโค้ช
ส่วนตัวของ เอริค เทน ฮาก เอง ถ้าหากตกลงต่อสัญญาคุมทีมต่อไปอีก ก็เป็นการแสดงออกว่าเขาหายงอนสโมสรแล้ว หลังจากเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าพวกเขาไม่ต้องการผม ผมก็จะไปคว้าแชมป์กับทีมอื่น” ตอนที่เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ หมาดๆ
ถ้าพูดถึงข้อดีของ เอริค เทน ฮาก ที่ทำให้สโมสรไว้ใจ ดูบอล นอกจากกระแสแฟนบอลส่วนใหญ่ที่กลับมาหนุนหลัง นับตั้งแต่พาทีมคว้าโทรฟี่ได้เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ก็คือเรื่องของการผลักดันดาวรุ่งขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ต่อเนื่อง รายงานข่าวจากสื่อที่น่าเชื่อถืออย่าง เดอะ เทเลกราฟ เผยว่าบอร์ดบริหารประทับใจอดีตนายใหญ่ของ อาแจ็กซ์ มากๆ ที่กล้าให้โอกาสผู้เล่นจากอะคาเดมี่อย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ ค๊อบบี้ เมนู ขึ้นมาเป็นกำลังหลักอย่างรวดเร็ว เบื้องหลังของเรื่องนี้ คือ เทน ฮาก ทำงานหนักร่วมกับผู้อำนวยการอะคาเดมี่ของสโมสรอย่าง นิค ค็อกซ์ มาโดยตลอด และคาดว่าในอนาคต จะต้องมีการดันดาวรุ่งขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เพิ่มอีกแน่ นอกจากนั้นแล้ว เทน ฮาก ยังแสดงให้เห็นว่าถ้าหากมีทีมชุดที่สมบูรณ์ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กลับมาคุมแนวรับ ผลงานมันก็ดีขึ้นทันตาเห็น ถ้าหากซีซั่นหน้า ผู้อำนวยการกีฬาหรือผู้อำนวยการเทคนิคเข้ามาช่วยวิเคราะห์ และวางแผนการป้องกันปัญหาวิกฤตินักเตะบาดเจ็บได้ ผลการแข่งขันของ แมนยู ก็น่าจะไม่ทุเรศอย่างซีซั่นที่ผ่านมา
ทีมงานแมนยูก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า เอริค เทน ฮาก จะสามารถพลิกโฉมหน้าทีมให้ดีขึ้นได้มากแค่ไหนในฤดูกาลหน้า แน่นอนว่าด้วยชื่อเสียงและความมุ่งมั่นของ เทน ฮาก ทำให้แฟนบอลตั้งความหวังไว้สูง แต่ก็ต้องยอมรับว่าการสร้างทีมใหม่ให้แข็งแกร่งต้องใช้เวลา ดังนั้นในฤดูกาลหน้า แฟนบอลน่าจะเห็นความพยายามของผู้จัดการทีมและนักเตะในการพัฒนาระบบการเล่นและผลงานอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอาจจะเร็วเกินไป แต่เราก็น่าจะได้เห็นความก้าวหน้าของทีมในด้านอื่นๆ เช่น ผลงานในถ้วยยุโรป ซึ่งน่าจะเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมกว่า ไม่ว่าจะเป็นศึก ยูโรปา ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจและรากฐานให้กับทีมได้เป็นอย่างดี