หลังเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่ปอร์โต้เปิดบ้านเสมอแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-3 นับว่าเป็นเกมที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งสองทีมต่างมีเกมรุกที่เฉียบคมและเร้าใจโดยทั้งสองฝ่ายแลกกันยิงประตูอย่างดุเดือดซึ่งผลเสมอในครั้งนี้แสดงถึงศักยภาพของทั้งสองทีมที่สามารถต่อสู้กันอย่างสูสี
เกมเริ่มต้นอย่างเร่าร้อนเมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ประตูนำไปก่อนจากการเล่นที่เด็ดขาดของผู้เล่นแนวรุก หลังจากนั้นไม่นานปอร์โต้ก็สามารถตีเสมอได้ ทำให้เกมกลับมาเป็นไปอย่างสูสี ทั้งสองทีมมีจังหวะบุกที่น่ากลัว แต่การจบสกอร์และการป้องกันที่เหนียวแน่นทำให้ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 1-1
เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง เกมยิ่งเดือดขึ้น เมื่อแมนยูออกนำอีกครั้งด้วยการประสานงานที่ยอดเยี่ยมของกองหน้าและกองกลาง แต่ปอร์โต้กลับมาตีเสมอได้อีกครั้งด้วยการบุกแบบไม่ย่อท้อ ซึ่งในช่วงท้ายของเกมทั้งสองทีมยังสามารถทำประตูเพิ่มได้อีก ทำให้สกอร์จบลงที่ 3-3
การเสมอครั้งนี้ทำให้ทั้งสองทีมต้องเร่งมือในเกมถัดไป โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องหาทางปิดเกมให้ดีกว่านี้ เพื่อเก็บสามแต้มในการแข่งขันนัดต่อไป ขณะที่ปอร์โต้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในบ้าน และพร้อมสู้ทุกทีมในกลุ่ม นี่เป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของทั้งสองทีมในการแข่งขันระดับสูง แต่ก็ยังมีจุดที่ทั้งสองฝ่ายต้องปรับปรุง และหลังเกมที่ปอร์โต้เสมอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-3 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
แม้ว่าจะทำได้ถึง 3 ประตู แต่ปัญหาใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคือเกมรับที่ยังไม่แข็งแกร่งพอ การเสียประตูถึง 3 ลูกแสดงให้เห็นว่ากองหลังยังไม่สามารถป้องกันได้ดี โดยเฉพาะการจัดการกับลูกตั้งเตะและการป้องกันจังหวะโต้กลับ
การทำ 3 ประตูในเกมนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในเกมรุกของทีม โดยเฉพาะการเล่นของกองกลางตัวรุกอย่าง บรูโน่ แฟร์นันเดส และจังหวะการประสานงานในแดนหน้า แต่ปัญหาคือความไม่ต่อเนื่องในการบุก หลายครั้งที่แมนยูสร้างโอกาสได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าปอร์โต้จะตกเป็นฝ่ายตามหลังถึงสองครั้ง แต่ทีมก็ไม่ย่อท้อ สามารถกลับมาตีเสมอได้ทุกครั้ง พลังงานและความมุ่งมั่นของนักเตะปอร์โต้โดยเฉพาะ เมห์ดี้ ตาเรมี และการปรับแผนของโค้ช ทำให้ทีมสามารถต่อกรกับแมนยูได้อย่างสูสี
ทั้งปอร์โต้และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อเสริมเกมในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งมีผลชัดเจนในการเพิ่มพลังบุกให้ทั้งสองทีม การเปลี่ยนตัวของปอร์โต้ช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ขณะที่แมนยูได้พยายามรักษาสกอร์แต่ก็ไม่สามารถปิดเกมได้ดี
ทั้งสองทีมต่างมีปัญหาในการรักษาสกอร์ในช่วงท้ายเกม ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยเฉพาะแมนยูที่เสียประตูตีเสมอในช่วงเวลาสำคัญ
การเสมอครั้งนี้ทำให้ทั้งสองทีมต้องเผชิญกับแรงกดดันในนัดถัดไป เพราะการเก็บสามแต้มสำคัญในรอบแบ่งกลุ่มเป็นเรื่องที่มีผลต่อการเข้ารอบต่อไป หากไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ในเกมหน้า โอกาสเข้ารอบอาจลดน้อยลง
สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การพลาดชัยชนะในเกมนี้อาจมีผลกระทบต่อความมั่นใจของทีม ซึ่งจำเป็นต้องกลับมาแก้ไขและมีความมั่นใจมากขึ้นในการแข่งขันครั้งหน้า ขณะที่ปอร์โต้สามารถนำพลังบวกจากเกมนี้ไปใช้ในการเตรียมตัวสำหรับนัดต่อไป