หลังจากจบเกมฟุตบอลนัดกระชับมิตรปรีซีซันระหว่าง เชลซี พบกับ อินเตอร์ มิลาน ณ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ จบลงด้วยสกอร์ 1-1 มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
ในเกมนี้ได้ตัวผู้เล่นหลักของฝั่งเชลซี ถือว่ากลับมาสมบูรณ์ครบทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น มาร์คคูคูเรญ่า, นิโคลัสแจ็คสัน และที่จับตามองที่สุดก็คือ โคล พาลเมอร์ ผู้ที่เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำสโมสรฤดูกาลที่แล้ว แต่แล้วกัลบมีเพียงแค่คูคูเรญ่าคนเดียวเท่านั้นที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง โดย โคล พาลเมอร์ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง แทน โนนี่มาดูอาเก้ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีตลอดการปรีซีซันที่ผ่านมา แต่ในแมตช์เจอ งูใหญ่ เขากลับยังแผลงฤทธิ์ไม่ออกสักเท่าไร แน่นอนว่าการลงมาของ โคล พาลเมอร์ ช่วยให้เกมรุกของฝั่งสิงโตน้ำเงินคราม มีความน่าเกรงขามขึ้นหลายเท่าตัว จากวิสัยทัศน์การจ่ายบอลทะลุทะลวงของ โคล พาลเมอร์ ซึ่งสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำประตูให้เพื่อนได้หลายครั้งหลายหน และเมื่อเขาได้เล่นร่วมกับผู้เล่นประสบการณ์สูงอย่าง คริสโตเฟอร์เอ็นคุนคู หรือว่าจะเป็นดาวเตะที่มีความเร็วอย่าง นิโคลัสแจ็คสัน บอลที่ออกจากเท้าดาวเตะวัย 22 ปี ยิ่งมีความอันตรายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นในเกมเปิดสนาม พรีเมียร์ลีก ที่ต้องเจอับเรือใบสีฟ้า หากไม่มีปัญหาเรื่องความฟิตเขาเองก็น่าจะได้ลงเป็นตัวจริงเช่นเคย
ประด็นนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ยังแก้ไม่ขาด นั่นก็คือเรื่อง โฟกัสของผู้เล่น สิงห์บลูส์ มีหลายครั้งที่มักจะหลุดลอยไประหว่างแมตช์จนทำให้คู่แข่งชิงความได้เปรียบเอามาเปลี่ยนเป็นประตูได้ แต่หากว่ากันตามตรง ในเกมที่พวกเขาต้องเจอ อินเตอร์มิลาน ช่วงแรกฝ่ายของสิงโตน้ำเงินครามกุมความได้เปรียบในด้านการครองบอล และสามารถทำเกมบุกขึ้นไปโจมตี ซึ่งแม้พวกเขายังส่งไปบอลซุกก้นตาข่ายไม่ได้และการขึงบอลไล่บี้คู่แข่งได้ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อชัยชนะในครั้งนี้ แต่หลังจากพักเบรคกินน้ำเพียงชั่วครู่ ผู้เล่นสิงโตน้ำเงินคราม ตั้งแต่แดนบนจนถึงกองหลังกลับไร้ความตื่นตัวไม่ยอมไล่บอล ทั้งที่ในช่วงก่อนหน้านี้ก็เล่นเพรสซิ่งมาโดยตลอด ซึ่งมองแล้วสวนทางกลับผู้เล่น งูใหญ่ ที่ใช้จังหวะแผ่วดังกล่าวทำเกมเร็วจนทะลุเข้าไปทำประตูได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าลูกนี้ผิดพลาดกันตั้งแต่หน้ายันหลัง จะว่าไปนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เล่น สิงห์บลูส์ สมาธิหลุดลอยไประหว่างเกม เพราะในแมตช์เจอเรือใบสีฟ้านั้น พวกเขาส่งบอลหน้าปากประตูกันพลาดจนโดนผู้เล่นทีมแมนซิตี้ ฉกไปยิงและหลังจากเสียประตูเพียงไม่ถึงนาที พวกเขาก็โดนทิ้งห่างออกไปแบบรวมดรเว เพราะเรียกสมาธิของตนเองกลับมาไม่ได้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน
หลังจากที่ เปโดร เนโต้ มีข่าวกับ สิงห์บลูส์ เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาก็ได้เข้ามานั่งชมเกมในสนามแสตมฟอร์ดบริดจ์ และยังสวมเสื้อเหย้าใหม่ล่าสุดของทีมเพื่อเป็นการยืนยันที่ว่า เปโดร เนโต้ จะกลายมาเป็นนักเตะใหม่ทัพ เปโดร เนโต้ อย่างแน่นอนนั่นเอง โดยในช่วงพักครึ่งเวลา เขาก็ได้รับโอกาสลงมาเหยียบสนามพร้อมกับ โบกมือทักทายแฟนบอลรอบสนามและหลังจากนั้นไม่นานเว็บไซต์ทางการของเชลซี ก็ได้ประกาศการเปิดตัวดาวเตะชาว โปรตุกีส อย่างเป็นทางการ ซึ่งทางด้าน เปโดร เนโต้ ตกลงเซ็นสัญญายาวกับ สิงห์บลูส์ ถึง 7 ปี ด้วยค่าตัวประมาณ 54 ล้านปอนด์ โดยเป็นเงินต้น 51.4 ล้านปอนด์ ส่วนที่เหลือ เป็นแอ็ดออนต่างๆ ในส่วนของค่าเหนื่อยก็ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ในสัญญาฉบับล่าสุดกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วอนเดอเรอส์ เนโต้ รับเงินอยู่ที่ 50,000 ปอนด์ ต่อ สัปดาห์
