แน่นอนอยู่แล้วว่าสำหรับ ปืนใหญ่ เป้าหมายของการมุ่งสู่แชมป์ พวกเขาจำเป็นจะต้องเตะจริงจังงแบบเน้นทุกนัด แต่สำหรับเกมการแข่งในครั้งนี้ควรถือว่าก็ทางเชลซี เปิดทางให้ปืนใหญ่แบบสุดๆ ด้วยมาตรฐานการเล่นที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก จนเกมได้จบลงที่ชัยชนะของ อาร์เซนอล 5-0 ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ เบน ไวท์ ควงคู่กันซัด 2 ส่วนอีก 1 เป็นของ เลอันโดร ทรอสซาร์
เอาเสื่อสาดมาปูนอนเล่น หรือที่จริงแจ้งเปลี่ยนตัวเองออกไปก่อนเลยยังไหว เมื่อบอลแทบทั้งหมดอยู่ในการครอบครองของ อาร์เซน่อล จนนายทวารอย่าง ราย่า ไม่มีบทบาทอะไรทั้งสิ้น
มีล้มเจ็บตอนต้นเกมแต่ยังสู้ต่อไหว และหาจังหวะดอดเข้าโขกเตะมุมเกือบเป็น 2-0 เหมือนกัน หลังจากนั้นเล่นแบบไม่กดดัน และไม่มีงานอะไรให้ต้องทำมากมาย
เป็นเกมที่ง่ายเกินคาด และง่ายที่สุดในช่วงหลายเกมหลัง เมื่อเกมรุกของ เชลซี วันนี้ ไม่มีอะไรมาท้าทายความสามารถเลย
เล่นด้วยแพสชั่นและแรงกระตุ้นสูง และมีจังหวะสำคัญอย่างการแท็ก โนนี่ มาดูเอเก้ ล้มไปแล้วไม่เสียฟาวล์ นำมาซึ่งประตูถ่างสกอร์ 3-0
ไม่ได้มีงานหนักให้ทำมากทั้งรุกรับ จนโผล่ออกจออีกทีก็กลายเป็นคนบวกสกอร์ 2-0 จากลูกเตะมุม นาที 52 แต่ก็ต้องชมว่าปิดสกอร์ได้คมดี ที่สำคัญกับประตูที่ 2 ที่จริงดูว่าตั้งใจเปิดเข้าใน แต่กลายเป็นวอลเลย์เข้าเสาสองไปอย่างมีโชค
อย่างที่ว่าคือ เชลซี ไม่ได้โอกาสเปิดเกมรุกอะไรเข้าใส่เลย มิดฟิลด์ตัวรับของ อาร์เซนอล อย่าง ปาร์เตย์ จึงไม่ได้ทำงานอะไรมากเช่นกัน แค่วิ่งไปวิ่งมา ตัดเกมบ้างบางครั้งก็มากพอแล้ว
เป็นขุมพลังขับเคลื่อนแดนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ มีประโยชน์ทั้งรุกรับ แอสซิสต์ให้ ทรอสซาร์ ซัลโวตั้งแต่ 4 นาทีแรก ต่อด้วยสับไกเองบนเส้นเขตโทษ นาที 22 ข้ามคานนิดเดียว และต้นครึ่งหลังก็ได้ยิงไปติดเซฟหวุดหวิด
เป็นอีกเกมที่โดดเด่นได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการเล่นเกมจ่ายบอลที่ทำให้แนวรับทีมเยือนต้องเจอปัญหาอยู่ตลอด กระทั่งเข้าเป้าจนได้กับประตู 3-0 ที่แทงให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ทะลุเข้าปิดสกอร์ และตักให้ เบน ไวท์ ยิงประตูที่สองของตัวเอง
เรียกเสียงเฮให้กับทีมได้อย่างรวดเร็วในเพียงการสับไกหนแรก ยิงยัดผ่านช่องแคบที่เสาแรกซึ่ง เปโตรวิช ปิดไม่มิด อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นถือว่าเงียบๆ ไปสักนิด จนโดนถอดออก
ใจกว้างเป็นแม่น้ำกับจังหวะนาทีที่ 10 ที่อยู่ในจุดอันตรายแล้วกลับเลือกส่งต่อจนโดนตัดทิ้ง และแม้ภาพรวมจะเป็นเกมที่ไม่ได้โอกาสสับไกเยอะนัก ก็ยังหาจังหวะทะลุเข้าซัดเสียบตาข่ายได้ เป็นประตู 3-0 ตามด้วยไม่กี่นาทีให้หลังที่ได้ยิงง่ายๆ กระแทกเสาในเป็น 4-0 เรียกว่าใช้โควตายิงประตูทีมเก่าได้อย่างเจ็บแสบ
ไม่ใช่เกมที่เด่นเป็นพระเอก และไม่ได้จังหวะโชว์ลีลาอะไรมากมายนัก แต่ก็เล่นอย่างคุกคามสร้างอันตรายให้กับแนวรับ เชลซี อยู่ตลอด จนมาทำแอสซิสต์ได้ในประตู 4-0 ของ ฮาแวร์ตซ์
จังหวะกระชากลากเลื้อยเล็กน้อย แต่เสียหน้านิดๆ เมื่อพาบอลไปล้มในเขตโทษ
เกือบบวกสกอร์ให้ อาร์เซนอล ได้จากจังหวะเอียงตัวยิงตามถนัด แต่กิน เปโตรวิช ไม่ลง
ลงคุมเกมตรงกลาง เจอกับต้นสังกัดเก่า แต่ก็เป็นในช่วงที่สกอร์ขาดลอยไปแล้ว
ลงไปเพื่อทดแทน โทมิยาสุ ที่เริ่มหมดพลัง แต่ก็แทบไม่ได้สัมผัสบอล
ลงไปเคาะสนิมตอนท้าย ไม่มีบทบาทอะไรมาก